ศบศ.วอน มั่นใจมาตรการฟื้นฟูประเทศ ขอประชาชน เชื่อมั่นศรัทธา ในตัว 'ประยุทธ์'
โฆษก ศบศ. วอน มั่นใจมาตรการเยียวยาฟื้นฟูประเทศ ย้ำ บิ๊กตู่ ต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หวังรายได้เข้า สร้างความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติ
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19(ศบศ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก รัฐบาลดำเนินการ 2 ส่วนหลัก ได้แก่
1. มาตรการด้านสาธารณสุขการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน และการดูแลรักษาพยาบาล โดยรัฐบาลจัดหาวัคซีนจำนวน 105.5 ล้านโดสเพื่อฉีดให้กับประชาชนจำนวน 50 ล้านคนภายในสิ้นปี64 ครอบคลุมประชากร 70 เปอร์เซ็นต์ และ
2. มาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการเปิดพื้นที่และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีเป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นขั้นตอนตามลำดับ เริ่มจากเปิดพื้นที่ เปิดกิจกรรม เปิดในประเทศ และเปิดต้อนรับต่างประเทศ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เน้นย้ำว่า การเปิดประเทศเริ่มจากการเปิดใจ และมั่นใจในความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนประเทศร่วมกัน
นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการในการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาวะวิกฤติโควิด-19 จำนวน 4 มาตรการคือ 1. มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 13.65 ล้านคน รัฐบาลสนับสนุนให้ลนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 16,380 ล้านบาท 2.มาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 2.5 ล้านคน รัฐบาลสนับสนุนให้ลนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 3,000 ล้านบาท
3.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 31 ล้านคน เปิดให้มีการลงทะเบียนแล้วกว่า 28 ล้านคน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่ง 150 บาทต่อวันต่อคน ตลอดโครงการ 3,000 บาท ใช้เม็ดเงิน 93,000 ล้านบาท เม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 186,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ท่านนายกฯ เป็นคนต้นคิด และ4. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้ที่มีกำลังซื้อ ครอบคลุมผู้มีสิทธิจำนวน 4 ล้านคน มีเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ 268,000 ล้านบาท ลงทะเบียนแล้ว 400,000 คน
นายธนกร กล่าวว่า แต่ละโครงการมีวัตถุประสงค์และวิธีการในการให้ช่วยเหลือกลุ่มคนที่แตกต่างกันออกไป โครงการทั้ง 4 เป็นโครงการที่มีความเชื่อมโยงและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 51 ล้านคน หรือครอบคลุมคนทั้งประเทศ 70% และนำเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 473,000 ล้านบาท ส่วนการเปิดภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ในวันที่ 1 ก.ค.นั้น จะเป็นสัญลักษณ์สะท้อนความพร้อมของเกาะภูเก็ต ต่อภาพรวมของทั้งประเทศ ประชาชน เอกชน ธุรกิจ การค้า ที่จะกลับมาอีกครั้ง
ตนเห็นด้วยกับแนวทางเปิดประเทศภายใน 120 วันของนายกฯ ถือเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลวางเอาไว้เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนเดินไปสู่เป้าหมายนั้นร่วมกัน โดยจะทยอยเปิดเมืองท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจหารายได้เข้าประเทศ ขอเพียงประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน เราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ การเปิดภูเก็ตคือการแสดงออกทางสัญลักษณ์ ถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติ ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะมีนักท่องเที่ยวไม่มาก แต่สะท้อนศักยภาพมาตรการสาธารณสุขของไทยในการบริหารจัดการ