รีเซต

SCCอวดงบQ3วันนี้ ลุ้นกำไรแตะหมื่นล.

SCCอวดงบQ3วันนี้ ลุ้นกำไรแตะหมื่นล.
ทันหุ้น
27 ตุลาคม 2564 ( 00:03 )
148
SCCอวดงบQ3วันนี้ ลุ้นกำไรแตะหมื่นล.

ทันหุ้น  – SCC แจ้งงบไตรมาส 3/2564 วันนี้ โบรกเคาะกำไรปกติแตะ 1 หมื่นล้านบาท โตเล็กน้อยจากปีก่อน หลังถูกกระทบอย่างหนักการแพร่ระบาดของโควิด-ล็อกดาวน์ พร้อมมองไตรมาส 4/2564 ฟื้นหลังคลายล็อกดาวน์หนุนดีมานด์เติบโตดีขึ้นทั้ง 3 ธุรกิจ ประเมินทั้งปีกำไรโต 32% กว่า 4.48 หมื่นล้านบาท คาดปันผลปีนี้ 16-17 บาท ยิลด์ 3.9-4.2%

 

บริษัทหลักทรัพย์  เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ว่า คาดผลประกอบการไตรมาส 3/2564 จะมีกำไรสุทธิที่ทรุดลงเหลือ 7,500 ล้านบาท (-56%QoQ, -23%YoY) ถูกกระทบจากการตั้งสำรองธุรกิจปูนซีเมนต์ในเมียนมาคาดประมาณ 2,500 ล้านบาท ถ้าหากตัดรายการพิเศษนี้จะมีกำไรปกติ 10,000 ล้านบาท (-42%QoQ, +3%YoY) เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อย แต่ต่ำกว่าไตรมาสแรกและไตรมาส 2/2564 เนื่องจากถูกกระทบอย่างหนักการแพร่ระบาดของ Covid-19 มีการล็อกดาวน์ ทั้งในไทย และภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดหลักของ SCC

 

*ชะลอตัวทั้ง 3 ธุรกิจ

ด้านธุรกิจปิโตรเคมี คาดจะถูกกระทบจากสเปรดที่ทรุดลง คือ HDPE-Naphtha = 499 ดอลลาร์ต่อตัน (-15%QoQ, -5%YoY) และ PP-Naphtha = 610 ดอลลาร์ต่อตัน (-13%QoQ, +6%YoY) เนื่องจากความต้องการในภูมิภาคถูกกระทบจาก Covid-19 ทำให้ความต้องการชะลอตัว ในขณะที่ต้นทุน Naphtha ขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ คาดกำไรปิโตรเคมีประมาณ 6,240 ล้านบาท (-40%QoQ, +14%YoY)

ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ถูกกระทบจากการปิดแคมป์คนงาน และไซต์งานก่อสร้าง ทำให้ความต้องการจะหดตัวลงประมาณ 10% YoY และคาดจะมีการตั้งสำรองในเมียนมาอีกประมาณ 2,500 ล้านบาท ทำให้สุทธิแล้วผลประกอบการจะขาดทุน 1,159ล้านบาท

 

ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร จะถูกกระทบจากต้นทุนเศษกระดาษที่พุ่งสูงขึ้น และความต้องการในภูมิภาคที่ชะลอตัว คาดกำไรประมาณ 1,700 ล้านบาท (-25%QoQ, +27%YoY)

 

*แนวโน้ม Q4 คาดจะดีขึ้น

ในไตรมาส 4/2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 เริ่มผ่อนคลาย ทั้งในไทย และภูมิภาค มีการคลายล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการมีการเติบโตดีขึ้นทั้ง 3 ธุรกิจ แม้กำไรไตรมาส 3/2564 จะลดลงมาก แต่รวม 9 เดือน จะมีกำไรที่ดี 39,500 ล้านบาท เติบโต 52% และคิดเป็น 88% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งประเมินกำไรปี 2564 เท่ากับ 44,892 ล้านบาท โต 32% และในอนาคต 1-2 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่เฟสของการเติบโต แรงหนุนจากทั้ง 3 ธุรกิจ คาดปันผลปีนี้ 16-17 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.9-4.2% คงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 520 บาท

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรของ SCC ในไตรมาส 3/2564 ที่ 1.0 หมื่นล้านบาท +7% YoY แต่ -40%QoQ จากผลกระทบการแพร่ระบาดในภูมิภาค, อุปสงค์อ่อนแอช่วงฤดูฝน, ต้นทุนวัตถุดิบ – เชื้อเพลิงสูงขึ้นตามราคาพลังงาน ทั้งนี้ ประมาณการของเรายังไม่รวมความเสี่ยงการด้อยค่าสินทรัพย์ธุรกิจในเมียนมา หากเป็นไปตามคาด กำไร 9M/2564 จะคิดเป็น 87% ของทั้งปี ทำให้ประมาณการทั้งปีไม่มี Downside

 

*เคาะพื้นฐาน 530 บาท

ราคาถ่านหินพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวในปีนี้ เป็นปัจจัยกดดัน SCC อย่างไรก็ตาม บริษัทจะควบคุมต้นทุนให้สูงขึ้นไม่เกิน 1 เท่า, เพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงทางเลือก, ราคาถ่านหินจะกลับสู่ระดับปกติหลังการปรับสมดุล และมาตรการของภาครัฐ

 

ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 ราคาหุ้น -6% แย่กว่า SET ที่ +3 สะท้อนข่าวลบด้านราคาพลังงานไปบ้างแล้ว ปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่มีส่วนลด -2.0 SD แผน Spin Off ธุรกิจปิโตรเคมีเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 530.00 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง