สืบ นาคะเสถียร คือใคร? ทำไม? ห้วยขาแข้ง สัตว์ป่าอยากอยู่
ข่าววันนี้ 1 กันยายน 2566 วันสืบ นาคะเสถียร เขาคือหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง เจ้าของวลี "ผมขอพูดในนามสัตว์ป่า" หลายคนยังจดจำเขาได้ดี เพราะความตายของสืบ ได้ปลุก "การอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า" ในสังคมไทยให้ทุกคนได้หันมาสนใจ ได้หันมาตระหนักถึงความสำคัญของผืนป่าและสัตว์ป่ามากขึ้น
วันสืบ นาคะเสถียร คือใคร?
และความตายของสืบ ในเช้ามืดของวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 จุดกระแสของการเรียกร้องแทนสัตว์ป่า กระสุน 1 นัดนั้นจบชีวิตของสืบลงในวัยย่าง 40 ปี พร้อมจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฝากข้อความของเขาไว้ "ผมมีเจตนาที่จะฆ่าตัวเอง โดยไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้องในกรณีนี้ทั้งสิ้น"
หลังการเสียชีวิตของสืบ นาคะเสถียร ได้มีการหาทุนสำหรับจัดตั้ง "มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร" และยื่นขอจดทะเบียนได้ภายใน 18 วัน โดยมูลนิธิฯ ดังกล่าว ก่อตั้งเพื่อส่งเสริมเรื่องการอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม พร้อมสนับสนุนให้ผู้พิทักษ์ป่าได้มีสวัสดิการที่ดีขึ้นเป็น 8,000 บาท จากเดิมได้เงินเดือนแค่ 4,000 บาท ทั้งที่ต้องอยู่ในป่านานร่วมถึง 15 วัน ข้าราชการไทยตัวเล็ก ๆ แนวคิดที่ต้องการอนุรักษ์ผืนป่าบ้านของสัตว์ป่า เมื่อป่าอยู่ได้ สัตว์ป่าก็ย่อมอยู่ได้ และคนก็อยู่ได้เช่นกัน
เสียงปืนในป่านัดนั้นเงียบลงนานเหมือนเช่นทุกปี จนเข้าสู่ยุคโรคโคิดระบาดทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทุกระดับ และปฏิเสธไม่ได้ว่า โรคระบาดยังกระทบต่อผืนป่าและสัตว์ป่าได้ไม่แพ้กัน บางคนใช้ช่องโหว่ของสถานการณ์เลวร้ายยังคงไล่ล่า ตามล่าสัตว์ป่า บางคนยังใช้ชีวิตในรูปแบบเดิม ๆ ที่ขาดการใส่ใจอนุกรัษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งที่ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น เหตุไฉน "มนุษย์" บางคนยังไม่อัปเดตการมีชีวิตที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นหรือเบียดเบียนผืนป่าและสัตว์ป่า
มาวันนี้ 1 กันยา วันสืบ หลายคนยังพูดถึงเขาในฐานะนักอนุรักษ์คนหนึ่ง แล้วเมื่อไหร่ที่ทุกคนจะปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมง่าย ๆ เช่น ลดใช้พลาสติกให้เป็นนิสัย จุดเริ่มต้นง่าย ๆ ที่ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้
ลองนึกภาพตามหากทุกคนทั่วโลกเริ่มรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการปรับพฤติกรรมง่าย ๆ เปลี่ยนการใช้ชีวิตในรูปแบบเดิม ๆ คำนึง ใส่ใจถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เดินทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่คำนึงถึงคุณค่าของการมีผืนป่าและสัตว์ป่า เชื่อเถอะว่าทุกสิ่งจะยั่งยืนได้อย่างยาวนาน
"ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่าทุกตัว"
สืบ นาคะเสถียร ข้าราชการไทยที่ไม่ยอมก้มหัวให้นายทุน
ทำไม? ห้วยขาแข้ง สัตว์ป่าอยากอยู่
รู้หรือไม่? ทำไมสัตว์ป่า สมเสร็จ เก้งหม้อ เลียงผา กระทิง วัวแดง ควายป่า ช้าง เสือโคร่ง และเสือดาว อยากอยู่ในห้วยขาแข้ง เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของห้วยขาแข้งนั้น เกิดจากต้นทุนที่มีความอุดมสมบูรณ์ของความหลากหลายทางระบบนิเวศน์ตั้งแต่พื้นที่ยอดเขาจนถึงที่ราบลุ่มริมน้ำ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีที่ห้วยขาแข้ง หาที่อื่นให้เหมือนไม่ง่ายเลย
โดยเฉพาะป่าบริเวณที่ราบลุ่ม ซึ่งอยู่ใจกลางห้วยขาแข้งอย่างพอเหมาะพอเจาะ ถือเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ของสรรพชีวิต สัตว์ป่า ยกเว้นมนุษย์ มีโป่งเป็นจำนวนมากให้สัตว์กีบลงมาหากิน และชักชวนสัตว์ผู้ล่าลงมาเยี่ยมเยือน ยิ่งในฤดูแล้งด้วยแล้ว บริเวณแถบนี้ เปรียบได้กับโอเอซิส เลยทีเดียว
และแน่นอนว่า ห้วยขาแข้ง เป็นแหล่งหากินของสัตว์ป่า ทั้งเสือโคร่ง เสือดาว ควายป่า ฯลฯ ที่ปัจจุบันเหลือน้อยนิด แต่เมื่อสัตว์เหล่านี้ได้เข้ามาใช้ประโยชน์และทำให้พวกมันได้คงรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันเองไว้ได้มาจนถึงปัจจุบัน หลายต่อหลายครั้งข่าที่ปรากฎขึ้นเกี่ยวกับสัตว์ป่าเหล่านี้ สร้างความชื่นอกชื่นใจให้มนุษย์ไม่น้อย อย่างน้อยสัตว์ป่า เช่น เสือโคร่ง ถือเป็นตัวชี้วัดว่าป่าห้วยขาแข้งยังคงอุดมสมบูรณ์ และมนุษย์อย่างเรา ๆ ควรต้องตระหนกถึงการอนุรักษ์ผืนป่าและสัตว์ป่าให้มาก เพื่อให้ผืนป่าและสัตว์ป่ายังคงอยู่
เพราะเมื่อป่าอยู่ได้ คนก็อยู่ได้
มาเริ่มอนุรักษ์ผืนป่าและสัตว์ป่า ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้ชีวิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับจากเรื่องใกล้ ๆ ตัวของคุณเอง เช่น ลดการใช้พลาสติก เปลี่ยนแก้วพลาสติกเป็นแก้วส่วนตัว แยกขยะให้เป็น แค่เริ่มต้นวันละนิด สู้กันทีละหน่อย เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นบ้างได้แล้ว
ประวัติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ระบุว่า เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี และมีพื้นที่ติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ทางทิศตะวันตก ถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของผืนป่าตะวันตกของประเทศไทย และเป็นผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และสิ่งที่น่าภาคภูมิใจคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2534 มีลักษณะเป็นผืนป่าที่มีความยาวจากเหนือจรดใต้วัดเป็นเส้นทางตรงมากกว่า 100 กิโลเมตร มีพื้นที่กว่า 1,737,587 ไร่ แต่ได้ผนวกรวมเพิ่มขึ้นอีก 2 ครั้ง จนขยายเป็นประมาณ 1,800,000 ไร่ หรือ 2,880 ตารางกิโลเมตร ในปัจจุบัน ทางเหนือติดกับอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางรวมถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในจังหวัดตากและกาญจนบุรี และทิศใต้ติดกับอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงอุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี มีเพียงพื้นที่ด้านทิศตะวันออกเท่านั้นที่อยู่ติดกับชุมชน 3 อำเภอ คือ อำเภอบ้านไร่, อำเภอลานสัก และอำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี
แนะนำ หนังสือ สืบ นาคะเสถียร ที่คุณควรอ่าน
สำหรับหนอนหนังสือทั้งหนังสือใหม่ และหนังสือมือสอง หนังสือที่เกี่ยวกับชีวประวัติของบุคคลสำคัญอย่าง สืบ นาคะเสถียร นั้น เป็นหนังสือที่ได้รับความสนใจทั้งอ่าน เก็บสะสม ทั้งนี้ในแวดวงหนังสือมือสอง ชีวิประวัติของเขาเป็นที่นิยม โดยหนังสือที่เกี่ยวกับสืบและเป็นที่นิยมในการเก็บสะสม จะขอแนะนำบางส่วน ดังนี้
- อนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ สืบ นาคะเสถียร ปี 2533 เป็นหนังสือที่หลายคนนิยมเก็บสะสมไว้ แต่หาไม่ง่ายเลยในแวดวงหนังสือมือสอง ราคาที่ผู้เขียนเคยได้มา ราว 400-1000 บาท
- สารคดี ฉบับที่ 68 ปีที่ 6 ตุลาคม 2533 สืบ นาคะเสถียร เป็นหน้าปกที่นักสะสมหาไม่ได้ง่าย ๆ
- สารคดี ฉบับที่ 307 ปีที่ 26 กันยายน 25553 20 ปี สืบ นาคะเสถียร อีกหนึ่งเล่มที่เหล่าสายสะสมจะนิยมเก็บไว้ในคลังหนังสือที่บ้าน ด้วยภาพหน้าปกที่จะได้เห็นบ่อยครั้ง
- หนังสือ – The Last Hero ชีวิตและความตายของ สืบ นาคะเสถียร 13 พฤศจิกายน 2017 ถือเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์ออกมาใหม่ รูปลักษณ์ทันสมัยมากขึ้น และรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับเขาได้อย่างน่าสนใจ
ใครที่อยากรู้จัก สืบ นาคะเสถียร มากขึ้น ลองหาหนังสือเล่มล่าสุด หรือจะเข้าไปศึกษาในเว็บไซต์ของมูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร ก็ได้นะ
ข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์
ภาพ : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร