รีเซต

กลุ่มแบงก์ระทึกหนี้EA อย่าพลาดสำรองหนัก

กลุ่มแบงก์ระทึกหนี้EA อย่าพลาดสำรองหนัก
ทันหุ้น
15 กรกฎาคม 2567 ( 21:18 )
11

#กลุ่มแบงก์ #ทันหุ้น - หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ร่วงยกแผง หวั่น ตั้งสำรอง EA ไตรมาส 3/2567 รวม 1.3 หมื่นล้านบาท  “ไทยพาณิชย์” มากสุด  TTB แจง  เหลือเพียงหลักร้อยล้านบาท   KKP-KTB รอด ด้านโบรก ไม่แนะนำซื้อกลุ่มแบงก์ แม้ราคาถูก เหตุ NPL ส่อเพิ่มในงวดไตรมาส 2-3  คาดงบฟื้น Q4/2567

 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) วานนี้ (15 ก.ค.) ปรับลงยกแผง ยกเว้นธนาคารกรุงไทย ( KTB) ที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า โดยหุ้นที่ร่วงแรง  อาทิ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ลดลง 3.50 บาท หรือ 3.29% ปิดที่ 103 บาทต่อหุ้น มูลค่าซื้อขายมาสุดอันดับ 1 ที่ 2,822.56 ล้านบาท  และธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ลดลง  1.74 บาท หรือ 3.74% ปิดที่ 45 บาทต่อหุ้น  จากความกังวลอาจต้องตั้งสำรองหนี้ปล่อยกู้ให้กับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA  และความกังวลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น  

 

นายกรกช  เสวตร์ครุตมัต  ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย  จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวลงวานนี้ มาจาก 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ มีน้ำหนักประมาณ 75-80% จากความกังวลกรณี บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ทั้งผลกระทบทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรงคือ แบงก์มีการปล่อยเงินกู้ให้กับ EA รวมมูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท   

 

@หวั่นกลุ่มแบงก์สำรอง 1.3 หมื่นลบ.

 

ส่วนทางอ้อมจาก EA เตรียมที่จะเสนอขายหุ้นกู้เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนด (โรลโอเวอร์) ปีนี้ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งหากขายหุ้นกู้ไม่หมดแล้วจะต้องกู้เงินแบงก์เพิ่ม แบงก์จะปล่อยกู้หรือไม่ หรือจะมีการยืดหนี้ออกไปหรือไม่  หรือหุ้นกู้จะมีการผิดนัดชำระหนี้(ดีฟอลต์) หรือไม่ 

 

ทั้งจากที่บล.กสิกรไทยมีการรวบรวมข้อมูลพบว่า EA มีเงินกู้กับแบงก์อยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนที่จะมีผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มแบงก์มีราวประมาณ  1.3 หมื่นล้านบาท ที่แบงก์อาจจะต้องเริ่มตั้งสำรองในช่วงไตรมาส 3/2567 หาก EA ไม่สามารถชำระหนี้ได้  ซึ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้นที่ไม่มีหลักประกันหรือมีหลักประกันต่ำ  โดยทางผู้บริหาร EA ระบุว่า ส่วนใหญ่เงินกู้แบงก์จะกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เหลือแบงก์แบงก์อื่น เช่น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)หรือ TTB 

 

@KKP-KTB รอด

 

นายกรกช  กล่าวว่า ส่วนตัวได้สอบถามไปยัง TTB ซึ่ง TTB ยอมรับว่ามีการปล่อยกู้ให้กับ EA จริง แต่เงินกู้เหลือไม่มากเพียงหลักร้อยล้านบาท  ซึ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น หากกรณีเลวร้ายต้องสำรองก็ไม่มาก  และจากการสอบถามไปยัง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP พบว่า KKP ไม่ได้มีการปล่อยกู้ให้กับทาง EA  โดยหุ้นที่ร่วงหนักวานนี้ เป็นปัจจัยเฉพาะตัวของ KKP  ส่วน  KTB ก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ปล่อยกู้ให้ EA 

 

“จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า EA  มีเงินกู้แบงก์ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เงินกู้ที่น่ากังวล คือ เงินกู้ระยะสั้น 8 พันล้านบาท   มีเงินกู้สำหรับโครงการอีวี เช่น อีวีบัส อีวีคาร์ และเรืออีวี แบตเตอรี  7.75 พันล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่ 5.7 พันล้านบาท เป็นเงินกู้จากแบงก์ต่างประเทศ มีเพียง 2 พันล้านบาท ที่กู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนหนี้ที่ไม่น่ากังวลเพราะเป็นหนี้โปรเจ็กต์ไฟแนนซ์มีอยู่ที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้นหนี้เงินกู้แบงก์ที่จะมีผลกระทบกลุ่มแบงก์อยู่ที่ราว 1.3 หมื่นล้านบาท หากจะต้องตั้งสำรอง ”

 

@NPL จ่อเพิ่ม Q2/67

 

ส่วนประเด็นที่ 2 ให้น้ำหนักประมาณ 15-20%  มาจากภาพใหญ่จากประชุมนักวิเคราะห์ของบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ที่ TISCO เห็นทิศทางคุณภาพสินทรัพย์ที่ไม่ดีนัก จากเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ปัญหาฐานลูกค้าระดับกลางถึงระดับล่างยังมีต่อสะท้อนกังวลมาที่หุ้นแบงก์ตัวอื่นๆ ที่จะรายงานงบการเงินว่าคุณภาพสินทรัพย์ หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)  มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

@ไม่แนะนำซื้อ

 

นายกรกช  กล่าวว่า  ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวลงมาแรงนั้น ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย ยังไม่แนะนำซื้อ เพราะ ขณะนี้ยังไม่เห็นปัจจัยหนุนที่จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ที่ไม่ดี  แม้ราคาปัจจุบันถือว่าถูกมากแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าคุณภาพลูกหนี้จะดีขึ้น ในช่วงไตรมาส 4 จากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัว  แต่หากวันนี้ ไม่มีปัจจัยลบเข้ามาเพิ่ม คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มแบงก์น่าจะทรงตัวได้ หลังจากรับรู้ข่าวลบไปมากกว่า 

 

“หากงบไตรมาส 2 กลุ่มแบงก์ออกมาไม่ดี จะต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มบ้างแต่ไม่มาก เชื่อว่าจะไม่ต้องปรับประมาณกำไรปีนี้ลง เพราะก่อนหน้านี้ปรับลงไปแล้ว  แต่หากกำไรไตรมาส 2 ออกมาผิดคาดถึง 15-20% อาจจะต้องปรับลดกำไรปีนี้ลง แต่เชื่อว่าจะปรับลงไม่มากแล้ว”

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง