แม่หนุ่มขายไก่หมุนเผย ไม่รู้ลูกปลอมเป็นทนาย ไม่รู้ข่าวอีกตั้งแต่โดนจับ ห่วง อยากไปประกัน
จากกรณีที่ กลุ่มทนายอาสาฯ เผยถึง พ่อค้าไก่หมุน หรือ นายพร (นามสมมุติ) แอบอ้างเป็นทนายความขึ้นว่าความในศาลหลายคดี ล่าสุดเพิ่งชนะอัยการ กระทั่งนายพรถูกจับกุมตัวได้แล้วที่ จ.กำแพงเพชร เนื่องจากปลอมคำพิพากษาศาลกำแพงเพชรนั้น
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พ.ต.ท.สุวิศ พิชอ่อน เจ้าของคดีเปิดเผยว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดจากผู้ต้องหาได้รับว่าความให้ผู้เสียหายในคดีแพ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จากนั้นได้แจ้งผู้เสียหายว่าชนะคดี ได้ให้ผู้เสียหายดูคำพิพากษาของศาล พร้อมเรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นค่าดำเนินการ
พ.ต.ท.สุวิศกล่าวว่า ต่อมาผู้เสียหายได้ตรวจสอบคำพิพากษาดังกล่าว ปรากฏว่าไม่มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวและไม่มีคดีดังกล่าวในสารบบของศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี จากนั้นพนักงานสอบสวน จ.นครสวรรค์ จึงประสานมายัง สภ.เมืองกำแพงเพชร
พ.ต.ท.สุวิศกล่าวอีกว่า เมื่อทราบเรื่องดังกล่าว ศาลจังหวัดกำแพงเพชรจึงตรวจสอบเลขที่คดี ซึ่งพบว่าไม่มีคดีดังกล่าวอยู่ในสารบบคลองสาน และได้ตรวจสอบรายชื่อทนาย ไม่พบว่าผู้ต้องหาอยู่ในรายชื่อของสภาทนายความฯ โดยทราบว่าผู้ต้องหาปลอมแปลงตั๋วทนายเพื่อใช้ในการว่าความ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับศาลเป็นอย่างยิ่ง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร และถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชรเรียบร้อยแล้ว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านของนายพรที่ ต.คนที อ.เมืองกำแพงเพชร พบกับ แม่ของนายพร ซึ่งอยู่อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวกับหลานสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นลูกของผู้ต้องหา โดยแม่เปิดเผยว่า ไม่รู้ว่าลูกชายทำความผิดอะไร ก่อนหน้านี้ 2 ปี ลูกเคยขายไก่หมุนอยู่ในพื้นที่ อ.ไทรงาม และ อ.ทรายทองวัฒนา หลังจากนั้นกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วรับว่าความ ส่วนรายละเอียดตนไม่รู้เรื่อง รู้แต่เพียงว่าลูกหาเงินมาจุนเจือครอบครัว
แม่กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงลูก อยากจะไปประกันตัวออกมา ตั้งแต่ถูกจับกุมตัวไปก็ยังไม่ทราบข่าวคราวเกี่ยวกับลูกอีกเลย ตอนนี้มีความเป็นห่วงอย่างมาก ไม่อยากให้ลูกติดคุก เนื่องจากลูกเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินส่งเสียเลี้ยงดูทั้งตัวเองและลูกสาวอีก 2 คน หากขาดลูกชายไปตนก็ยังไม่รู้ว่าจะอยู่กันยังไง
ขอบคุณ ข่าวสด