อัปเดต Google Maps ด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะ Gemini ทดลองใช้แล้วในอินเดีย

กูเกิล (Google) เปิดตัวการอัปเกรดครั้งสำคัญสำหรับแอปพลิเคชันแผนที่กูเกิล แมปส์ (Google Maps) ในประเทศอินเดีย โดยเพิ่มผู้ช่วยอัจฉริยะ Gemini AI ที่รองรับการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี (Hands-free) หรือช่วยนำทางให้สะดวกปลอดภัยมากขึ้น พร้อมให้คำแนะนำตามบริบทการเดินทาง และข้อมูลจุดหมายหรือสถานที่สำคัญใกล้เคียงแบบเรียลไทม์
Gemini AI ใน Google Maps
สำหรับฟีเจอร์เจมิไน (Gemini AI) ในกูเกิล แมปส์ (Google Maps)เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และเตรียมเปิดให้ผู้ใช้ชาวอินเดียใช้งานทั้งบน แอนดรอยด์ (Android) และ ไอโอเอส (iOS) ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะรองรับทั้งหมด 9 ภาษาอินเดีย เพื่อให้เข้ากับความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรม
มิเรียม แดเนียล (Miriam Daniel) รองประธานและหัวหน้า กูเกิล แมปส์ (Google Maps) กล่าวว่า “การปรับให้เข้ากับท้องถิ่นในอินเดีย ไม่ได้หมายถึงแค่การแปลภาษา แต่รวมถึงวิธีที่ผู้คนพูด ถามทาง และระบุสถานที่ ทุกอย่างแตกต่างและต้องออกแบบใหม่ให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้ใช้ชาวอินเดียอย่างแท้จริง”
เพิ่มระบบเตือนภัยจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนน
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่คือ ระบบแจ้งเตือนด้วยภาพและเสียง (Visual and Audio Alerts) เมื่อผู้ขับขี่ผ่านพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดอุบัติเหตุสูง ซึ่งพัฒนาโดยร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นในอินเดีย
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดใช้งานในพื้นที่ คุรุคราม (Gurugram), ไฮเดอราบาด (Hyderabad) (รวมเขตไซเบอราบาด (Cyberabad)), จันดีการ์ (Chandigarh) และ ฟาริดาบัด (Faridabad) ประเทศอินเดีย บนระบบแอนดรอยด์ (Android) ก่อนขยายทั่วประเทศในภายหลัง
นอกจากนี้ กูเกิล (Google) ยังร่วมมือกับ สำนักงานทางหลวงแห่งชาติของอินเดีย (National Highways Authority of India: NHAI) เพื่อรับข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับการปิดถนน เส้นทางเบี่ยง และงานซ่อมแซม พร้อมเพิ่มข้อมูล สิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างทาง (Wayside Amenities) เช่น ห้องน้ำสาธารณะ ร้านอาหาร และปั๊มน้ำมันบนทางหลวงทั่วประเทศ
ฟีเจอร์ใหม่ ใน Google Map
กูเกิล (Google) ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อีกหลายรายการ ในกูเกิล แมปส์ (Google Maps) ได้แก่
การแจ้งเตือนล่วงหน้า (Proactive Notifications) เมื่อมีเหตุขัดข้องหรือจราจรติดขัด แม้ไม่ได้เปิดโหมดนำทาง โดยขณะนี้เริ่มใช้งานใน นิวเดลี (New Delhi), มุมไบ (Mumbai) และ บังกาลอร์ (Bengaluru)
แสดงความเร็วจำกัดระหว่างขับขี่ (Speed Limit Display) โดยใช้ข้อมูลจากหน่วยงานจราจรท้องถิ่น ครอบคลุม 9 เมืองใหญ่ ได้แก่ คุรุครารัม (Gurugram), ไฮเดอราบัด (Hyderabad), กัลกาตา (Kolkata), มุมไบ (Mumbai), ชัยปุระ (Jaipur) และเมืองอื่น ๆ
เสียงนำทางบนทางยกระดับ (Flyover Voice Navigation) ช่วยระบุจุดขึ้น ลงสะพานอย่างละเอียด โดยฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบนแอนดรอยด์ (Android) และไอโอเอส (iOS) ภายในไม่กี่สัปดาห์
ป้องกันอุบัติเหตุซ้ำ หลังเหตุการณ์ในอุตตรประเทศ
การอัปเกรดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากอุบัติเหตุสะเทือนใจเมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อรถยนต์คันหนึ่งขับตกสะพานที่ยังสร้างไม่เสร็จในรัฐอุตตรประเทศ (Uttar Pradesh) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จนเกิดคำถามถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลในแผนที่
อนัล โฆษ (Anal Ghosh) ผู้จัดการอาวุโสของ กูเกิล แมปส์ (Google Maps) ชี้แจงว่า “สภาพถนนจริงอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และบางครั้งเกิดขึ้นในพริบตาเดียว แผนที่จึงไม่สามารถแม่นยำได้ 100% เราจึงอยากให้ผู้ใช้ยังคงมีสติและมองถนนเป็นหลัก”
การอัปเกรดครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของกูเกิล (Google) ในการทำให้ “แผนที่ฉลาดขึ้น เข้าใจผู้ใช้มากขึ้น และปลอดภัยขึ้น” ด้วยการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ากับข้อมูลเรียลไทม์จากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อมอบประสบการณ์นำทางที่แม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ชาวอินเดีย
และหากในอนาคตฟีเจอร์เหล่านี้ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยด้วย ก็น่าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีจุดเสี่ยงอุบัติเหตุหรือสภาพถนนเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้การเดินทางในชีวิตประจำวันของคนไทย “ปลอดภัยและอัจฉริยะ” ยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
