สะเทือนใจโคตรระเบิดเบรุต คร่าชีวิตพ่อกลับมาเฝ้าลูกน้อยป่วยมะเร็ง
สะเทือนใจโคตรระเบิดเบรุต - เอพี รายงานเรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตครอบครัวชาวเลบานอน จากเหตุการณ์โคตรระเบิดสนั่นโกดังท่าเรือกรุงเบรุต ทำลายล้างพื้นที่ในรัศมีโดยรอบหลายกิโลเมตร เมื่อวันที่ 4 ส.ค. คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายแล้วอย่างน้อย 158 ราย บาดเจ็บ 6,000 คน
นายจิฮัด อายุ 44 ปี เป็นคนหนึ่งที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ หลังจากต้องห่างจากครอบครัวติดค้างอยู่ประเทศไนจีเรีย ตั้งแต่เดินทางไปช่วงคริสต์มาสปีก่อน จนปีนี้เกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ทำให้กลับมาไม่ได้
กระทั่งเมื่อมาตรการควบคุมการเดินทางเริ่มผ่อนคลายลง นายจิฮัดจึงรีบเดินทางด่วนมายังโรงพยาบาลที่ลูกสาวอายุ 6 ขวบรักษาอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดแพร่กระจายเร็ว
(Soha Saade via AP)
นายจิฮัดและนางโซฮา ซาเอเด ภรรยา ต่างเฝ้าไข้ลูกสาว ชื่อ เกมมา อยู่ 13 วัน ระหว่างที่ลูกเข้ารับการรักษา เหลืออีกวันเดียวทั้งหมดจะได้กลับบ้าน
แต่เหตุการณ์ช็อกโลกไม่คาดคิดเกิดขึ้น ช่วงเย็นวันอังคารที่ 4 ส.ค. สามีภรรยาคู่นี้เห็นว่ามีควันผิดสังเกตตลบอยู่ด้านนอกหน้าต่างโรงพยาบาล โซฮาใช้มือถือถ่ายคลิปไว้และออกไปถามนางพยาบาลว่ามีอะไรหรือไม่
จังหวะที่หญิงสาวเปิดประตู “โลกระเบิด" ในตอนนั้น
โซฮาหมุนตัวกลับตรงไปหาลูกสาวทันที ภาพที่เห็นคือลูกสาวตกตะลึงกับเลือดที่ไหลจากศีรษะของพ่อ
หญิงสาวรุดเข้าไปอุ้มร่างสามีเพื่อพยุงไปขอความช่วยเหลือ ขณะที่ต้องเดินเท้าเปล่าเหยียบเศษกระจกพาสามีลงมายังชั้นที่ 9 แต่ตอนนั้นระบบของโรงพยาบาลล่มไปแล้ว โซฮาต้องหาทางอื่น
(Soha Saade via AP)
จังหวะถัดมา มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยพยุงหญิงสาวลงบันได และน้องชายของโซฮาก็รุดมาถึงพอดี โซฮาโทรศัพท์คุบกับเพื่อนของหมอ เพื่อถามถึงวิธีที่จะปฐมพยาบาลสามีไปก่อน ระหว่างติดต่อขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลอื่น แต่ก็ไม่สำเร็จ ทุกแห่งที่อยู่ในบริเวณนั้นโกลาหลไปด้วยคนไข้ล้นจากทั่วทุกสารทิศ
“จิฮาโด ตอบฉัน อย่าทิ้งฉันไป” โซฮาพูดกับสามี ก่อนที่จิฮัดค่อยๆ หมดลมหายใจในอ้อมกอดของเธอ
“เขาไม่ได้ลืมตาเลยด้วยซ้ำ ฉันเห็นวิญญาณของเขาออกจากร่าง” โซฮาให้สัมภาษณ์ สามวันหลังจากนั้น เธอจึงค่อยดึงเศษแก้วออกจากเท้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะดึงความปวดใจออกไปได้อย่างไร
“เขาไม่ควรต้องไปตายที่โรงพยาบาลแบบนั้น มันทำให้ฉันใจจะขาด” โซฮากล่าว
ทั้งสองแต่งงานกันเมื่อปี 2552 โซฮาจำเป็นต้องจากไนจีเรียกลับมาเลบานอน เพราะเกิดโรคระบาดอีโบลาที่นั่น จากนั้นไม่กี่ปี หญิงสาวก็มีลูก แต่แล้วสถานการณ์ความรุนแรงในเลบานอน กลับทำให้แผนที่พ่อแม่ลูกจะได้อยู่ด้วยกันต้องล่มไป จิฮัดจำเป็นต้องไปทำงานอยู่ไนจีเรีย ลูกๆ 2 คน คือ คาร์ล ลูกชาย อายุ 9 ขวบ และแกมมา ลูกสาว อายุ 6 ขวบ อยู่กับแม่ที่เลบานอน
“ช่วงที่เราห่างกัน เราคุยโทรศัพท์กัน เขาบอกฉันทุกวันว่าที่รักไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล ถ้าฉันต้องการดาวเดือน เขาจะหามาให้ เขาไม่เคยทำให้ฉันโกรธ เขาไม่เคยทำให้ฉันโกรธเลย" โซฮากล่าว
A damaged car is parked outside a destroyed building in a neighborhood near the scene of Tuesday's explosion that hit the seaport of Beirut, , Lebanon, Friday, Aug. 7, 2020. (AP Photo/Felipe Dana)
ปกติแล้วทั้งสองจะพบกันทุกสองเดือนจนเมื่อโรคโควิดระบาดโลก ทำให้ครอบครัวต้องห่างกันไปนาน จนเมื่อประเทศเริ่มคลายล็อก จิฮัดกลับมาหาลูกเมียได้ ช่วงสุดสัปดาห์หลังจากเฝ้าไข้ลูกสาว จิฮัดก็กลับไปเยี่ยมลูกชาย
จนเมื่อสองวันก่อนเกิดระเบิด ชายหนุ่มจึงกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซื้อชุดนอนใหม่มาให้ภรรยา และซื้อสลัดมาให้ลูกสาว
“เขาห่วงใยครอบครัวที่สุด เขาแบกความรับผิดชอบใหญ่ไว้ และทุกคนก็พึ่งพาเขา เขามักเป็นที่พึ่งทางใจของฉันเสมอ”