เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มเชียงรายวัย 35 เพิ่งหายโควิด ปอดอักเสบซ้ำ เข้ารพ.อีกรอบ
ไทม์ไลน์ หนุ่มวัย 35 ชาว อ.เทิง จ.เชียงราย เพิ่งหายจากป่วยโควิด ระหว่าง 14 วัน ป่วยซ้ำ พบปอดอักเสบ ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์หาเชื้อ!
จากกรณีที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้พาตัวผู้ป่วยที่เคยมีประวัติติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พื้นที่ จ.เชียงราย กลับไปทำการรักษาที่อาคารรองรับผู้ป่วยดังกล่าวภายในโรงพยาบาลอีกครั้ง
หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวซึ่งเป็นชายอายุ 35 ปี ชาวอำเภอเทิง เคยได้รับการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาจนหายดีแล้ว จากนั้นแพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปอยู่บ้านได้โดยมีมาตรการพักฟื้นหลังการรักษาอย่างรัดกุม เช่น ให้อยู่ห่างผู้คน สวมใส่หน้ากากอนามัยอีกอย่างน้อย 1 เดือน ฯลฯ แต่ปรากฎว่าช่วงคืนที่ผ่านมามีอาการป่วยขึ้นมาอีกครั้งทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้นำตัวกลับเข้าไปรับการรักษาใหม่อีกครั้งดังกล่าว
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2563 ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดเชียงราย ได้ชี้แจงกรณีผู้ป่วยโควิด-19 รายเดิมกลับมาป่วยซ้ำ ว่า ประวัติของผู้ป่วยได้เข้ารับการโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
-วันที่ 20 มี.ค. 2563 เข้ารับการรักษาโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จนจบสิ้นขบวนการรักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
-วันที่ 6 เม.ย. 2563 แพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลผู้ป่วยมีสุขภาพร่างกายปกติ ไม่มีไข้ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยสาธารณสุขให้ผู้ป่วยได้กักตัวเองที่บ้าน สวมหน้ากากอนามัย และแยกตัวจากครอบครัวและชุมชนอีกจนครบ 14 วัน และยังมีการติดตามสุขภาพและวัดไข้ทุกวันโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ
- ระหว่าง 14 วัน ผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ
- วันที่ 18 เม.ย. 2563 สาธารณสุขจึง แนะนำให้ผู้ป่วยเข้าตรวจและรับการรักษา เพื่อหาสาเหตุของอาการป่วย จากการตรวจประเมินโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เบื้องต้น
พบว่า มีอาการโรคปอดอักเสบมีความเป็นไปได้จากทั้งเชื้อไวรัสอื่นๆ และแบคทีเรียซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนส่งตรวจอย่างละเอียดเพิ่มเติม และติดตามการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ รวมถึงภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยต่อเชื้อโควิด-19 ด้วย
รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ได้จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องแยกโรคเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ให้ยาที่ครอบคลุมการรักษาเชื้อที่มีความเป็นไปได้ต่ออาการป่วยของผู้ป่วยรายนี้ สำหรับอาการผู้ป่วย ณ ปัจจุบัน ไม่มีไข้ มีอาการไอเล็กน้อย สามารถเดิน และช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวผู้ป่วยรักษาหายแล้วอาจกลับมาป่วยซ้ำ ทางสาธารณสุข ได้มีการเฝ้าระวัง ติดตามสุขภาพของผู้ป่วยทุกรายที่ออกจากโรงพยาบาลไปอย่างใกล้ชิด