DHL ลุยใช้ EV ขนส่งพัสดุด้วยรถพลังงานไฟฟ้า เดินหน้าเพื่อความยั่งยืน !
ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ขยายจำนวนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้ในการขนส่งในประเทศไทย โดยเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 16 คันในการจัดส่งแบบลาสไมล์นอกเหนือจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 50 คันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน การขยายจำนวนการใช้งานรถ EV ในครั้งนี้ทำให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์รายแรกในประเทศไทยที่เปลี่ยนไปใช้รถ EV ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ
รถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ ใช้เวลา 8 ชั่วโมงในการชาร์จไฟจนเต็ม รองรับการเดินทางได้ 260 กิโลเมตร บรรทุกของได้ถึง 3.9 ลูกบาศก์เมตร หรือ 1.6 ตัน แต่ละคันจะวิ่งขนส่งรวมระยะทาง 3,000 กิโลเมตรต่อเดือน ตัวรถมีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น ระบบเบรก ABS, ระบบล็อคอัตโนมัติ, สัญญาณเตือนโดยใช้เซนเซอร์, ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
นอกจากนี้ยังมีระบบ สแลมล็อค (Slam Lock) ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยเสริม โดยจะล็อคประตูรถทุกบานโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับรถปิดเพียงประตูเดียว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อผู้ขับไม่ได้อยู่กับตัวรถ และมีระบบบันทึกข้อมูลจากกล้องด้านหน้า ด้านใน และด้านหลังตัวรถ ทำให้สามารถตรวจสอบและแจ้งเตือนความปลอดภัยแบบตลอดเวลา เมื่อเกิดเหตุเกี่ยวกับรถและผู้ขับรถได้ทันที
โดยรถขนส่งพลังงานไฟฟ้านี้ เริ่มทำการขนส่งสินค้าในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และเขตพื้นที่ต่างๆ และดีเอชแอลมีแผนที่จะเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 5 คันในเฟสถัดไป เพื่อใช้งานในเส้นทางภาคตะวันออก ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรถ EV ที่ให้บริการทั้งหมดในประเทศไทยรวมจำนวน 71 คัน ภายในปี 2566 ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนมาใช้รถ EV เป็นจำนวนร้อยละ 60 ของยานพาหนะทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2573
เฮอร์เบิร์ต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า บริษัทกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 โดยให้ความสำคัญกับการเป็นกรีนลอจิสติกส์ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า และตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น 436 ตันต่อปี โดยรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าชุดนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการนำบริษัทไปสู่ลอจิสติกส์ที่ยั่งยืนและสร้างอนาคตที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกคน
ทางด้าน ศิวเวศม์ หงษ์นคร รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวเสริมว่าภายในปีนี้ รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าสำหรับการขนส่งลาสไมล์ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส จะเพิ่มเป็นร้อยละ 29 ของจำนวนยานพาหนะทั้งหมด และบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้บุกเบิกตลาดในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อสภาพภูมิอากาศที่ดีขึ้น
ทั้งนี้นอกจากการเปลี่ยนผ่านในการใช้รถ EV แล้ว บริษัทยังสร้างการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการตั้งเป้าผสมผสานการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืนในการขนส่งด้วยเครื่องบิน (Sustainable Aviation Fuels) ให้ได้มากกว่าร้อยละ 30 ภายในปี 2573 ร่วมกับการออกแบบอาคารที่ลดคาร์บอน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บริการ GoGreen Plus ที่ดีเอชแอลเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อช่วยลูกค้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย