ตำรวจ ร่วม อย.บุกโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม มูลค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับแจ้งเบาะแสจากสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีการแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิด 4x100 อย่างรุนแรงในกลุ่มวัยรุ่น โดยมีการนำยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม หรือยาบางชนิดมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำมาผสมกับน้ำกระท่อมดื่มเพื่อความมึนเมาและเสพติดเป็นจำนวนมากซึ่งยากลุ่มดังกล่าวจะต้องจำหน่ายโดยเภสัชกร เนื่องจากการเสพยาเสพติดชนิด 4x100 อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มวัยรุ่นที่เสพยกระดับเป็นสารเสพติดรูปแบบอื่นที่รุนแรงมากขึ้นได้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิดดังกล่าวในกลุ่มวัยรุ่น ตำรวจจึงเฝ้าระวังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยากลุ่มแก้แพ้ แก้ไอเรื่อยมา ต่อมาได้สืบสวนหาข่าวพบว่ามีการลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอมและทราบถึงกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมว่ามีการลักลอบผลิต และบรรจุ อยู่ในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้นสถานที่ผลิตยาแก้ไอปลอมใน ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตรวจยึดและอายัดยาแก้ไอปลอม วัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต และบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งสิ้น 31 รายการ เช่น ยาแก้ไอยี่ห้อดาทิสซินปลอม 15,000 ขวด ยาแก้ไอที่อยู่ระหว่างผลิต บรรจุลงขวด จำนวน 4,000 ขวด วัตถุดิบอุปกรณ์ในการผลิต
และในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นสถานที่จับเก็บผลิตภัณฑ์ยาแก้ไอ เพิ่มเติม จำนวน 2 จุด คือ สถานที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์ยาแก้ไอปลอม ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน และสถานที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์ใน ต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร ยึดยาแก้ไอปลอมได้รวม 30,600 ขวด รวมตรวจค้น 3 จุด ตรวจยึดและอายัดยาแก้ไอยี่ห้อดาทิสซินปลอม จำนวน 45,600 ขวด, วัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต และบรรจุภัณฑ์ อื่นๆจำนวนมาก โดยโรงงานดังกล่าวมียอดการผลิตวันละ 20,000 ขวด และลักลอบผลิตมาแล้วประมาณ 2 เดือน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50,000,000 บาท
จากการสืบสวนพบว่า ผู้กระทำความผิด นำส่วนผสม วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่างๆ มาผลิตและบรรจุ จากนั้นจะนำผลิตภัณฑ์ยาแก้ไอปลอมไปกระจายเก็บไว้ในโกดังพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน และ อ.เมืองสมุทรสาคร โดยจะเปลี่ยนสถานที่ในการผลิตไปเรื่อยๆ รวมทั้งใช้กล่องผลไม้บรรจุยาแก้ไอปลอมในการขนส่งเพื่อตบตา และยากแก่การตรวจสอบของตำรวจ นอกจากนี้ยังสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าว เป็นผู้ที่ได้รับการว่าจ้างผลิตยาแก้ไอปลอม ให้กับเครือข่ายผู้กระทำความผิด ในการผลิต และจำหน่ายยาแก้ไอปลอม จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้นและดำเนินคดีไปแล้ว เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2567
ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาอย. ได้มีมาตรการตรวจสอบเฝ้าระวังการผลิตและขายกลุ่มยาน้ำแก้ไอซึ่งเป็นยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงที่มีการนำไปใช้ในกลุ่มวัยรุ่นเพื่อหวังผลให้เกิดอาการมึนเมาและมีการลักลอบขายทั้งทางอินเทอร์เนตและร้านขายยากลุ่มเสี่ยงมาโดยตลอด สำหรับการจับกุมสถานที่ผลิตยาแก้ไอปลอมครั้งนี้จะเห็นได้ว่ายาปลอมเหล่านี้เกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานไม่มีความปลอดภัย จึงขอเตือนประชาชนในการเลือกซื้อยาอย่าเสี่ยงสั่งซื้อจากสื่อออนไลน์หรือซื้อจากร้านที่ไม่มีใบอนุญาตขายยา เพราะนอกจากจะได้รับยาที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานไม่สามารถใช้รักษาอาการป่วย ยังไม่ปลอดภัย หรือเกิดอันตรายจากการบริโภคยาดังกล่าวได้ ขอให้เลือกซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งจะมีกระบวนการคัดเลือกยาที่มีคุณภาพมาตรฐานนำมาขายในร้านยา รวมถึงเภสัชกรจะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำในการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลให้กับผู้ป่วย
ทั้งนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจากอย. ได้ที่www.fda.moph.go.thและLine: @FDAThai และหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาตสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนอย.1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th Line: @FDAThai, Facebook: FDAThai หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวเพิ่มเติม ว่า ยาเป็นปัจจัย 4 ที่ประชาชนจะใช้รักษาเยียวยาเมื่อป่วยไข้อันดับแรก และส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของประชาชน หากรับประทานยาปลอมที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้การรักษาไม่ได้ผล ไม่หาย และอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต ผู้ผลิตและขายยาจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง เพื่อเป็นหลักประกันเบื้องต้นว่ายาที่ผลิตมาสู่ท้องตลาดมีมาตรฐาน และรักษาโรคได้จริง บก.ปคบ.จะดำเนินกวดขันจับกุมผู้ผลิตและขายยาปลอม รวมถึงกวาดล้างผู้ที่ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ถึงที่สุด และขอฝากความห่วงใยถึงกลุ่มเยาวชน ที่นำยายาแก้ไอยาแก้แพ้ หรือยาแก้ปวดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในลักษณะสารเสพติดที่เรียกว่า “4x100” แล้วนำมาดื่มเพื่อให้เกิดอาการมึนเมา เสียสุขภาพและอาจก่อเกิดเหตุอาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนตามมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินกวดขันจับกุมเครือข่ายที่นำยาดังกล่าวไปขายเพื่อตัดตอนการเข้าถึงยาเสพติดชนิด 4x100 ให้ถึงที่สุดเช่นกัน