โฟล์กสวาเกนจีนเล็งลงทุน 1.5 หมื่นล้านยูโร ผลักดันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
(แฟ้มภาพซินหัว : คนงานประกอบรถที่โรงงานของบริษัทเอฟเอดับบลิว-โฟล์กสวาเกน ออโตโมบิล ในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 9 ก.ค. 2019)[/caption]เบอร์ลิน, 29 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (28 ก.ย.) ผู้ผลิตรถยนต์โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ไชน่า (Volkswagen Group China) ประกาศว่ามีแผนที่จะลงทุนประมาณ 1.5 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 5.55 แสนล้านบาท) ร่วมกับบริษัทกิจการร่วมค้าหลายราย ในด้านการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (E-Mobility) ระหว่างปี 2020-2024โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ไชน่า กล่าวว่าแผนการลงทุนข้างต้นนั้นเป็นการลงทุนเพิ่มจากที่ก่อนหน้านี้ที่โฟล์กสวาเกน กรุ๊ปได้เคยประกาศแผนลงทุนมูลค่า 3.3 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.22 ล้านล้านบาท) สำหรับพัฒนาการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในทั่วโลกโฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ไชน่ายังวางแผนที่จะผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ทั้งหมด 15 รุ่นสำหรับใช้ในประเทศภายในปี 2025 ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาไฟฟ้าและการแปลงเป็นดิจิทัล และตั้งเป้าให้สัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนในประเทศจีนอยู่ที่ร้อยละ 35
(แฟ้มภาพซินหัว : รถยนต์อาวดี้ที่รอการขนย้ายในลานจอดของบริษัทเอฟเอดับบลิว-โฟล์กสวาเกน ออโตโมบิล ในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 9 ก.ค. 2019)
เมื่อไม่นานมานี้ จีนเพิ่งประกาศเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศว่าจะบรรลุการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) หรือการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060 ซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะเร่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงโลกไปสู่การพัฒนาสีเขียวและคาร์บอนต่ำ"เราชื่นชมกับคำประกาศนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามุ่งหวังว่าจะทำให้ได้ด้วยกลยุทธ์โกทูซีโร (goTOzero) ของเรา" สเตฟาน วูลเลนสไตน์ ซีอีโอของโฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ไชน่า กล่าวในแถลงการณ์พร้อมเสริมว่า "โฟล์กสวาเกนมุ่งมั่นที่จะเป็นหุ้นส่วนผู้กระตือรือร้นในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์"อนึ่ง จีนตั้งเป้าให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แตะระดับสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุแผนปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ก่อนปี 2060