รีเซต

โฆษก ศบค.ยันตรวจเชื้อ "โควิด-19" 40 ราย ที่ยะลา ต้องรอผลแล็บส่วนกลางอีกครั้ง! ยันไม่ปิดบังข้อมูล

โฆษก ศบค.ยันตรวจเชื้อ "โควิด-19" 40 ราย ที่ยะลา ต้องรอผลแล็บส่วนกลางอีกครั้ง! ยันไม่ปิดบังข้อมูล
มติชน
4 พฤษภาคม 2563 ( 13:23 )
120
2

 

ตรวจโควิด-19 ยะลา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้รับคำถามจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใน จ.ยะลา เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ออกมาว่ามีผู้สงสัยว่าจะเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 40 ราย

 

 

 

“วันนี้ขอนำชุดข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มารายงาน จากชุดข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ใน จ.ยะลา ตามปัจจัยเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม – วันที่ 3 พฤษภาคม จำนวนรวมทั้งสิ้น 126 ราย

 

เริ่มต้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พบผู้ป่วยรายแรก ที่กลับ มาจากการทำพิธีทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย ทำให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ 1 ในช่วงเดือนมีนาคม และในช่วงต้นเดือนเมษายน พบ กลุ่มก้อนที่ 2 คือ กลุ่มผู้สัมผัส ผู้ป่วยจากกลุ่มก้อนที่ 1 หลังจากนั้น ช่วงกลางเดือนเมษายน พบการระบาดกลุ่มก้อนที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สัมผัสของกลุ่มก่อนที่ 1 และกลุ่มก้อนที่ 2 จึงทำให้ผู้ติดเชื้อในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นมาในจำนวนมา” โฆษก ศบค. กล่าว

 

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน ทางจังหวัด ศูนย์ควบคุมโรคในพื้นที่ และกรมควบคุมโรค ได้ประชุมหารือกันในการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 21 เมษายน โดยพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันรวมสะสม 126 ราย

 

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผลการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชน (active case finding) จ.ยะลา ว่า ตั้งแต่วันที่ 18 – 24 เมษายน ใน 8 อำเภอ ได้เก็บสิ่งส่งตรวจ ดังนี้ 1.อ.เมืองยะลา 124 ราย พบเชื้อ 3 ราย 2.อ.เบตง 46 ราย ไม่พบเชื้อ 3.อ.ยะหา 572 ราย พบเชื้อ 3 ราย 4.อ.รามัน 107 ราย ไม่พบเชื้อ 5.อ.บันนังสตา 1,763 ราย

 

พบเชื้อ 14 ราย 6.อ.ธารโต 411 ราย ไม่พบเชื้อ 7.อ.กาบัง 213 ราย ไม่พบเชื้อ และ 8.อ.กรงปีนัง 41 ราย ไม่พบเชื้อ รวมมีจำนวนส่งตรวจหาเชื้อทั้งสิ้น 3,277 ราย และพบผู้ติดเชื้อเพียง 20 ราย และในจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยัน 20 รายนี้ ได้ติดตามผู้สัมผัสอีกจำนวน 671 ราย หลังจากการซักประวัติเพื่อความแน่ใจชัดในการสอบสวนโรคและในจำนวนผู้สัมผัส 671 ราย ได้ส่งผู้สัมผัสในจำนวนนี้ไปตรวจหาเชื้อ 222 ราย พบผู้ป่วยจากการสัมผัสใกล้ชิด 6 ราย

 

“จาก 20 ราย เราก็ไปเจาะลงว่ามีผู้เกี่ยวข้องกี่ราย พบว่ามี 671 ราย ที่ไปเชื่อมโยงกับคน 20 คน ที่มีผลตรวจยืนยัน แล้วก็นำคน 671 ราย เอาทีมเข้าไปนั่งซักประวัติพูดคุย และหาให้แน่ว่าสัมผัสจริงๆมีกี่ราย ผลก็ออกมาที่ตัวเลข 222 ราย เราจะไม่ได้ปูพรมกันเยอะ เราจะเจาะคนที่ชัดๆ จากประวัติโดยทีมสอบสวนโรคจะมีวิธีการเข้าไปค้นหา จึงนำจำนวน 222 ราย ส่งตรวจหาเชื้อ พบว่ามีผู้ป่วยยืนยัน 6 ราย ซึ่งจำนวนนี้เป็นที่มาของการตรวจเพิ่มคนกลุ่มใหญ่จำนวน 311 ราย ที่ได้รายงานไปเมื่อวานนี้ และใน 311 รายนี้ มีการรายงานข่าวว่าพบผู้ป่วยยืนยันถึง 40 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การตรวจพบผู้ป่วยผลเป็นบวกใน จ.ยะลา 40 ราย นี้ เกิดขึ้นจากมาตรการการกระจายศูนย์แล็บไปทั่วประเทศ ผลตรวจเป็นผลจำนวน 40 ราย นี้เป็นการตรวจจากศูนย์แล็บของ จ.ยะลา ที่ได้เพิ่งเริ่มต้นติดตั้งใหม่ได้เพียง 2 สัปดาห์ เนื่องจากเดิมทีใช้การตรวจในแล็บของ จ.สงขลา

 

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าว ยังไม่ได้มีการตรวจสอบและไม่ได้เป็นทางการ แต่ทางสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปก่อนแล้ว จึงต้องมีการตรวจสอบข้อมูลกับศูนย์แล็บของสงขลาอีกครั้ง และจะต้องนำพี่เลี้ยงจากศูนย์แล็บของสงขลา เข้าไปควบคุมกำกับหรือตั้งมาตรฐานให้เท่ากัน โดยในขณะนี้

 

จากการทวนสอบผลการตรวจอีกครั้ง พบว่าแล็บของ จ.สงขลา ระบุว่าใน 40 ราย ทุกรายไม่มีผลเป็นบวก อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการนำส่งมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ. ที่เป็นแล็บมาตรฐานอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถระบุวันและเวลาที่ชัดเจนได้แต่จะเร่งสอบสวนและรายงานผลให้เร็วที่สุด

 

“โดยผลที่ออกมาอย่างไม่เป็นทางการที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สงขลา ยืนยันว่า 40 รายนี้ ไม่พบเชื้อเลยทุกราย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกันข้ามจาก 2 ห้องแล็บ และจากการประชุมหารือกันในผู้บริหารของ สธ. ทั้ง ปลัด สธ. อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค มีความเห็นตรงกันว่า

 

การตรวจแค่ 2 แล็บ คงไม่เพียงพอ จะต้องมีการส่งแล็บที่เป็นกลางมากที่สุด โดยจะใช้แล็บของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นแล็บอ้างอิงระดับประเทศ ดังนั้น วันนี้ยังไม่ยืนยัน และจะต้องไปทวนสอบทั้งหมดตั้งแต่กระบวนการเก็บตัวอย่าง การขนส่งตัวอย่างที่จะต้องส่งจากใต้มาถึงกรุงเทพมหานคร ต้องมีความชัดเจน และจะต้องใช้ห้องแล็บที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความน่าเชื่อถือสูงที่สุด” โฆษก ศบค. กล่าว

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า 40 รายนี้ ยังไม่มีการยืนยันในการประกาศผลในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาอย่างไร จะไม่มีการปกปิดข้อมูลเด็ดขาด เพราะว่าการรับรู้ข้อมูลมากที่สุดในระดับของอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะช่วยกันได้ เพื่อให้ทราบถึงปัญหา เพื่อให้ระดับส่วนบุคคลสามารถช่วยประเทศชาติผ่านพ้นการติดเชื้อนี้ไปได้

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง