EASTเร่งเครื่องครึ่งปีหลัง เป้า68สินเชื่อใหม่3พันล.
#EAST #ทันหุ้น - EAST มั่นใจโตมั่นคงฐานทุนแน่นมีกลุ่ม ITOCHU เป็นพันธมิตรหนุน เผยดอกเบี้ยขาลงส่งผลดีต้นทุนการเงิน เป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งปีนี้ 3 พันล้านบาท เดินหน้าขายหนี้เสียในไตรมาส 2 นี้ หวังกด NPL เหลือ 6-7% จากปัจจุบัน 8% ส่วนไตรมาส 3 และ 4 คาดผลงานดีกว่าครึ่งแรกชัด ปลายปีสรุปแผนลงทุนออนไลน์ ต่อยอดธุรกิจเดิม
นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ EAST ผู้ประกอบการ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง และสินเชื่อให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการซื้อรถยนต์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีฐานการเงินที่แข็งแรงขึ้นหลังจากราวเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมาบริษัท จีอาร์ แมนเนจเมนท์ (ไทยแลนด์) ในเครือ ITOCHU Corporation ซึ่งเป็นกิจการใหญ่ระดับโลกจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมผู้ถือหุ้นใหญ่ผ่านการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ส่งผลดีให้บริษัทมีความพร้อมสูงที่จะขยายธุรกิจเชิงรุกหากอนาคตเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว
@ดอกเบี้่ยขาลง
นอกจากนี้ การที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศกำลังเป็นขาลงยังช่วยเสริมให้ทั้งต้นทุนการเงินลดลงอีก รวมถึงมีโอกาสสร้างกำไรได้สูงขึ้นในแง่ส่วนต่าง
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ผลดีจากดอกเบี้ยขาลงไม่ได้มีนัยมากนักภายใต้การปล่อยสินเชื่อที่รัดกุมของสถาบันการเงินต่างๆ พร้อมกับสังเกตพบว่า สินเชื่อรถยนต์โดยทั่วไปไม่ได้ลดลงตามดอกเบี้ยตลาดมากนัก และการอนุมัติสินเชื่อก็ยาก สถิติการอนุมัตสินเชื่อผ่านที่บริษัทมีในมือปัจจุบันอยู่ประมาณ 60% ของการยื่นขอ
ทว่ายังประเมินตลาดมีความต้องการใช้ยานยนต์มือสองอยู่ เพราะยังคงคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคารถยนต์มือหนึ่ง อีกทั้งเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีย่อมทำให้คนส่วนใหญ่เลือกจับจ่ายโดยประหยัด
ทั้งนี้บริษัทคาดตลาดรถยนต์มือหนึ่งปี 2568 คาดจะอยู่ที่จำนวน 600,000 คัน จากปี 2567 อยู่ที่ 500,000 คัน ในขณะที่ตลาดมอเตอร์ไซค์ยอดขายเฉลี่ยปีละ 1,000,000 คัน และ มอเตอร์ไซค์มือสองราคาไม่ได้ลดลงเหมือนรถยนต์ ส่งผลให้บริษัทมุ่งเน้นรถมอเตอร์ไซค์มือสองมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสอง 40% ในขณะที่มอเตอร์ไซค์มือสองอยู่ที่ 60% ส่วนใหญ่ประเภทบิ๊กไบต์
ส่วนในแง่ความผันผวนราคารถยนต์ในตลาดมือสองที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการตลาดสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้านั้น คาดจะเข้าสู่ภาวะนิ่งสมดุลในอีก 1-2 ปีนับจากนี้
@เป้าหมายผลงาน
ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รถยนต์มือสอง 1,000 ล้านบาท และรถมอเตอร์ไซค์ 2,000 ล้านบาทโดยประมาณ และปัจจุบันมีสินเชื่อคงค้างราว 6,000 ล้านบาท
จากไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทว่าไตรมาส 2/2568 คาดหวังจะมีผลงานที่น่าพอใจแต่อาจยังไม่โดดเด่นเท่าในไตรมาส 3/2568 และไตรมาส 4/2568 จากปัจจัยลบในภาพรวมที่คาดเบาบางลงแล้ว
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL คาดหวังลดระดับจากสิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 8% ให้เหลือ 6-7% ด้วยการรอบคอบในการพิจารณาสินเชื่อ และอีกประการคือบริษัทมีแผนตัดขายหนี้ออกไปบางส่วนคาดกระบวนการขายหนี้จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2568
บริษัทยังมุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยีที่จะทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมกับใช้ระบบ AI ช่วยอำนวยความสะดวกงานคัดกรองลูกค้า อีกทั้งอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนเพิ่มเติมด้านออนไลน์เพื่อเพิ่มความเร็วบริการด้านทั้งระบบตั้งแต่การดูชมยานยนต์ไปจนถึงขั้นตอนอนุมัติสินเชื่อ รวมไปถึงขยายสินเชื่อใหม่ๆ โดยคาดจะได้ข้อสรุปแผนการลงทุนปลายปีนี้