รีเซต

อยู่อย่างเป็นทุกข์ ลูกเมาชอบทำร้าย แม่-พี่ บาดเจ็บ แจ้งตร.มา2รอบ ยังจับไม่ได้

อยู่อย่างเป็นทุกข์ ลูกเมาชอบทำร้าย แม่-พี่ บาดเจ็บ แจ้งตร.มา2รอบ ยังจับไม่ได้
ข่าวสด
7 มกราคม 2565 ( 17:55 )
128

ข่าววันนี้ 7 ม.ค. 65 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุชายเมาคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ และทำร้ายคนในครอบครัวได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังพยายามใช้ขวานไล่ฟันซ้ำอีก เหตุเกิดที่บ้านเย้ยสะแก ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบนางสง่า (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี และนายกิตติภพ อายุ 47 ปี แม่และลูก ยืนอยู่หน้าบ้านด้วยอาการตื่นตกใจ พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป บริเวณบ้านปูนชั้นเดียวด้านหลังที่สร้างไว้ให้ นายสุรพงษ์ หรือเจ๊ก อายุ 41 ปี ลูกชายคนที่ 4 ที่เมาคลุ้มคลั่งอาศัยอยู่คนเดียว เพราะเวลาที่ดื่มเหล้าเมาจะชอบโวยวายอาละวาดและทำลายข้าวของ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำอุปกรณ์ไม้ง่ามเข้าไปตรวจสอบกลับไม่พบนายเจ๊ก อยู่ในบ้าน คาดว่าน่าอาจจะหลบหนีไปก่อนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามตรวจสอบดูบริเวณป่าใกล้บ้านแต่ก็ไม่พบ น่าจะไปหลบอยู่ที่อื่น

 

 

นายกิตติภพ กล่าวว่า ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน และรอยแดงช้ำที่หลัง ซึ่งถูกน้องชายใช้ไม้กระหน่ำตี โดยน้องดื่มเหล้ามา 2 – 3 วันติดต่อกันจนเมาอย่างหนัก แล้วก็อาละวาดทำลายข้าวของทั้งโวยวายใส่แม่และตนเอง จึงได้แจ้งตำรวจให้มาช่วยเกลี้ยกล่อมให้น้องชาย สงบสติอารมณ์ แต่พอตำรวจกลับไปน้องชายกลับโมโหไม่พอใจ แล้วจู่ๆ ก็ใช้ท่อนไม้มากระหน่ำตีตนเองที่ด้านหลังจนเป็นรอยแดงช้ำ พอตนเอาแขนป้องไว้ก็ตีที่แขนจนเป็นเป็นแผล ก็พยายามจะยื้อแย่งท่อนไม้จนตนเสียหลักล้มลง

 

 

แต่น้องชายก็ไม่ยอมหยุด ยังไปคว้าขวานจะมาฟันตนเองซ้ำอีก ซึ่งแม่ก็มาห้ามเอาไว้ แล้วแจ้งตำรวจให้มาช่วยชาร์ทจับตัวน้องชาย เพื่อนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และหากเป็นไปได้ก็อยากให้เอาไปบำบัดรักษา เพราะน้องน่าจะดื่มจนติด และก่อนหน้านี้น้องก็เคยเสพยาเสพติดด้วย แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังแอบเสพหรือไม่

 

 

นายกิตติภพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเวลาที่น้องชาย ไม่เมาก็ไปทำงานรับจ้างหากินปกติ แต่หากช่วงไหนดื่มเหล้าก็จะไม่ไปทำอะไร และวันไหนเมาหนักก็จะโวยวายอาละวาดทำลายข้าวของ จนตอนกลางคืนตนกับแม่นอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าน้องชาย จะเมาขาดสติมาแอบทำร้ายตอนไหน ทุกวันนี้ก็ต้องอยู่แบบหวาดระแวง ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยนำตัวไปบำบัดรักษา เพราะสงสารแม่ที่อยู่แบบต้องทุกข์ใจและหวาดระแวง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง