ททท.เดินหน้ารับต่างชาติเที่ยวเชียงใหม่ 1 ต.ค. ย้ำต้องซื้อแพคเกจทัวร์
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ยังมีผู้ป่วยเกิน2หมื่นรายและผู้เสียชีวิตหลักร้อยคนต่อวันนั้น แต่นโยบายเปิด 10 พื้นที่นำร่องรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากนโยบายเปิด 10 พื้นที่นำร่อง รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนี้ยังเหลือ 6 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี และบุรีรัมย์ ที่ยังไม่สามารถเปิดได้ตามกำหนด หลังทยอยเปิดไปแล้ว 4 พื้นที่ ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และในเดือนสิงหาคมนี้จะเริ่มเปิดกระบี่และพังงา สำหรับการเปิดเชียงใหม่ แผนงานคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% แต่ยังมีเรื่องวัคซีนที่ยังไม่สามารถฉีดให้คนในพื้นที่ได้ครอบคลุม 70% ของประชากรรวม
นายธเนศวร์กล่าวว่า เชียงใหม่ไม่ได้เปิดรับต่างชาติทั้งจังหวัด แต่นำร่องใน 3 อำเภอ คือ แม่ริม แม่แตง และดอยเต่า โดยวันที่ 24 สิงหาคมนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ จะประชุมร่วมกับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เพื่อสรุปแนวทางทั้งหมด ก่อนนำเสนอให้ ศบค.พิจารณาเห็นชอบและจัดสรรวัคซีนต่อไป
“เชียงใหม่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามโครงการ Charming Chiang Mai เดิมคาดว่าจะผลักดันให้เกิดขึ้นภายในวันที่ 1 กันยายนนี้ แต่จากสถานการณ์การระบาดโควิดในประเทศ คาดว่าคงไม่ทัน ภาคเอกชนจึงหารือร่วมกันและประเมินว่าจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม แทน แต่ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะทำได้หรือไม่” นายธเนศวร์กล่าว
นายธเนศวร์กล่าวว่า รูปแบบการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเชียงใหม่ จะต่างจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล ที่ให้นักท่องเที่ยววางโปรแกรมเดินทางได้ด้วยตัวเอง แต่รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวในเชียงใหม่ จะต้องรับบริการผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น ซึ่งวางแผนไว้ 9 แพคเกจ ในรูปแบบ 4 วัน 3 คืน นักท่องเที่ยวจะออกนอกเส้นทางไม่ได้ บริษัททัวร์จะรับผิดชอบดูแลลูกทัวร์ตลอดทริปตั้งแต่มาถึงจนเดินทางกลับ เมื่อจบทริปแล้ว ต้องเดินทางออกนอกประเทศไทยทันที
นายธเนศวร์กล่าวว่า ส่วนผู้ที่ต้องการอยู่ในไทยต่อต้องซื้อแพคเกจทัวร์แบบ 14 วัน เมื่ออยู่ครบ 14 วันแล้ว จะเดินทางท่องเที่ยวได้เองทั่วประเทศไทย เหตุที่ต้องกำหนดให้เที่ยวผ่านบริษัททัวร์ เนื่องจากเป็นการเปิดพื้นที่ทางบก แตกต่างจากภูเก็ต หรือสมุย ที่เป็นเกาะซึ่งควบคุมการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้ง่ายกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติอนุญาตให้ธนาคารสถาบันการเงินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด เปิดให้บริการได้ มีผลวันที่ 18 สิงหาคม ทางสมาคมธนาคารไทยประสานกับธนาคารสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมให้บริการภายใต้การบริหารจัดการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนลูกค้า อย่างไรก็ตาม แต่ละธนาคารจะพิจารณาการเปิดสาขาตามความเหมาะสม โดยมีแนวทางการเปิดให้บริการ ดังนี้
1.สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จะพิจารณากลับมาเปิดให้บริการ ไม่เกิน 17.00 น. 2.สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ แต่ไม่เกิน 17.00 น. 3.สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone เปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกิน 15.30 น. 4.สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกิน 15.00 น.