EIC หั่นเป้าจีดีพีปีฉลูโต2.2% ท่องเที่ยว-ส่งออกฟื้นตัวช้า
TNN ช่อง16
27 มกราคม 2564 ( 18:42 )
69
ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center หรือ EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการ GDP ปีนี้ ลงเหลือ 2.2% เป็นผลมาจาก การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีแนวโน้มช้ากว่าที่คาด ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในหลายประเทศแล้ว และไทยอาจจะเปิดให้มีผู้ที่ฉีดวัคซีนสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ โดยลดข้อจำกัดการกักตัวลง
แต่การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนก็ต่อเมื่อ ประเทศต้นทางต่างมีภาวะภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว โดย EIC ประเมินว่าประเทศพัฒนาแล้วจะทยอยมีภูมิคุ้นกันหมู่ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปีหน้า ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยจะทยอยมีภูมิคุ้นกันหมู่ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/64 (เช่นจีน) ไปจนถึงไตรมาสที่ 4/65 (เช่น CLMV) ซึ่งช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ EIC จึงปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ ลงเหลือ 3.7 ล้านคน โดยเป็นการฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะในไตรมาส 4 เป็นหลัก
ภาคการส่งออกมีแนวโน้มชะลอกว่าคาดในช่วงครึ่งแรกของปีตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง (soft patch) จากการกลับมาระบาดของ COVID-19 รวมถึงปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และการแข็งค่าของเงินบาท อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ถูกนำออกมาใช้ในหลายประเทศ การปิดเมืองแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และการเร่งฉีดวัคซีน ซึ่งจะนำไปสู่การมีภูมิคุ้นกันหมู่โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจโลกและการส่งออกไทยฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดย EIC คาดมูลค่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 4%YOY ในปีนี้
สำหรับในส่วนของอุปสงค์ในประเทศ ข้อมูลเร็วบ่งชี้ว่าการระบาดระลอกใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีลักษณะ face-to-face อย่างมาก โดย EIC คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนในการควบคุมการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งแม้ผลกระทบน่าจะไม่รุนแรงเท่ากับการระบาดระลอกแรกเนื่องจากการปิดเมืองเป็นแบบเฉพาะเจาะจง และมีมาตรการภาครัฐที่ช่วยบรรเทาผลกระทบ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบซ้ำเติมปัญหาแผลเป็นทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME และแรงงานในธุรกิจด้านบริการที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาาม ในภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มเป็นไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญทั้งในแง่มูลค่าทางเศรษฐกิจและการจ้างงานยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมมีความแตกต่างระหว่างภาคธุรกิจค่อนข้างสูง รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนและความเสี่ยงด้านต่ำอยู่มาก
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาในปีนี้ประกอบด้วย ระยะเวลาในการควบคุมการระบาดระลอกใหม่ ความล่าช้าในการกระจายวัคซีนในไทยอย่างแพร่หลาย แผลเป็นทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพระบบการเงินผ่านการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ปัญหาเสถียรภาพการเมืองในประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน นอกจากนี้ยังมีปัญหา ภัยแล้ง จากระดับน้ำในเขื่อนที่ยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และ ค่าเงินบาทที่แข็งเร็วกว่าคู่ค้าคู่แข่ง ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE