ส.อ.ท.-เชียงใหม่ ลุย “FTI EXPO 2022” ขานรับเปิดประเทศ ปักหมุด 29 มิ.ย.-3 ก.ค.นี้
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าประกาศความพร้อมเปิดประเทศ kick-off ที่เชียงใหม่ จัด FTI EXPO 2022 : มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมอุตสาหกรรมไทย เตรียมขนทัพนวัตกรรมใหญ่ทุกภาคส่วน กระตุ้นเศรษฐกิจ ระดมองค์กรชั้นนำของประเทศ ภาครัฐ ภาคเอกชนและสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ ครอบคุลม 11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ และผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ภาคเหนือ รวมกว่า 400 ราย ร่วมจัดแสดงสินค้า การประชุมสัมมนา การเจรจาธุรกิจ พร้อมนำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ มั่นใจเรียกความเชื่อมั่นภาคเศรษฐกิจและภาคประชาชน ให้ประเทศขับเคลื่อนไปได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมตั้งเป้ามียอดใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในงานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย การส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่ มีความพร้อมเป็นประตูการค้าการลงทุนสู่สากล ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืน การใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และอัตลักษณ์ของล้านนาในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องร่วมผนึกกำลังกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งด้านการท่องเที่ยวและด้านการจัดกิจกรรมงานต่างๆ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่สะดวกสบายและปลอดภัย
งาน FTI Expo 2022 หรือมหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมอุตสาหกรรมไทย ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รอคอยสำหรับชาวเชียงใหม่ เป็นงานปฐมฤกษ์เปิดเมืองทั้งจังหวัดเชียงใหม่ โดยตลอด 5 วันของการจัดงาน ผมเชื่อมั่นว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่และภาคเหนือได้มาก จากการใช้จ่ายของนักธุรกิจและผู้เข้าร่วมงานทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อเป็นแรงหนุนเสริมให้งานมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น ทางกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน จึงร่วมจัดงาน Lanna Expo 2022 โดยนำเอาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มาจัดแสดงควบคู่ไปพร้อมกับงาน FTI Expo 2022”
“และที่สำคัญกว่านั้น FTI EXPO 2022 ได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 29 มิถุนายน นี้” นายประจญ กล่าว
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมไทยต้องเจอกับความท้าทายหลายระดับทั้งปัญหาโควิด–19 ราคาน้ำมันดีเซลที่ลอยตัว ภาวะเงินเฟ้อ การดิสรัปชั่นด้านความรู้ การมาของเทคโนโลยีใหม่ รวมไปถึงหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้นและกำลังซื้อที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างมาก และนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการพาอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้
และจากปัญหาความเปราะบางของโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมาที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการส่งออกของภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ปัญหาเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ในขณะเดียวกัน เรายังมีภาคการผลิตที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคส่งออกซึ่งเติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้จาก GDP ของไทยในปี 2564 ปรับตัวดีขึ้นจากติดลบ 6.1 ในปี 2563 เป็นบวก 1.6 ในปี 2564 และคาดว่าในปี 2565 จะเติบโตถึง 5-10% จากปีที่ผ่านมาที่การส่งออกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามยังมีความท้าทายเกี่ยวกับโครงสร้างของอุตสาหกรรมไทยที่ถูกขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมกลุ่มเดิมๆ กระจุกตัวเพียงไม่กี่กลุ่ม ขาดความยั่งยืนและไม่เกิดมูลค่าเพิ่มสุทธิที่แท้จริงให้แก่ประเทศ
ดังนั้น จึงจำเป็นต้อง “ปฏิรูป” โครงสร้างอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เกิดความยั่งยืนมากขึ้นและเป็นแนวทางการเติบโตที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการได้รับผลประโยชน์ (inclusive growth) เป็นประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากจะเน้นการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ตามแนวทาง New S Curve แล้ว ยังต้องเน้นการปฏิรูปเกษตรอุตสาหกรรมตามความต้องการของตลาดด้วยแนวคิดของ Smart Agricultural Industry (SAI) ด้วย ทั้งหมดนี้คือที่มาของแนวคิด “strengthen Thai industry for stronger Thailand : การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมเพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม” ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมฯ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือ ONE F.T.I. มีเป้าหมายร่วมกันที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วย One Vision, One Goal and One Team
งาน FTI Expo 2022 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Shaping the Future Industry for Stronger Thailand I ฉากทัศน์ใหม่อุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต เพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทยและองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษา ทั้งด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม การค้าและการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย มุ่งเน้นการแสดงศักยภาพ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปกติใหม่ (New Normal) รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั่วโลก เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนของภาคธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแสดงศักยภาพและยกระดับความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในระดับประเทศภายใต้แนวคิด BCG Economy Model ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
รวมทั้งเพื่อสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ไทย การค้าการลงทุนให้เชื่อมโยงสู่ระดับสากลอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วนของประเทศให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้แบบ Next Normal โดยคาดว่าจะสร้างโอกาสทางการค้าและเกิดเงินทุนหมุนเวียนภายในงานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
ด้าน นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในงานนี้จะชูแนวคิด BCG Economy Model หรือ Bio-Circular-Green Economy ที่ถือเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นนโยบายสำคัญของการดำเนินการของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืนในระยะยาว การนำ BCG Economy Model เข้ามาขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ เป็นสิ่งที่ประเทศไทยเราทำได้และมีความได้เปรียบ โดยเฉพาะด้าน Bio Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพเนื่องจากไทยมีทรัพยากร มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นจุดที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้
สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ร่วมผลักดันและดำเนินงานตามนโยบาย BCG ของประเทศ ภายใต้ 3 กลยุทธ์ คือ 1) การพัฒนาโมเดล BCG และการขยายผล 2) การพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ และ 3) การพัฒนามาตรฐานและการสนับสนุนด้านนโยบาย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติ (Bio-Circular-Green Economy) ไปพร้อมกัน โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโต เกิดธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรให้น้อยลง และลดมลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เกิดเป็นรูปธรรม
สำหรับไฮไลท์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงานว่าบนพื้นที่ของการจัดงาน FTI EXPO 2022 กว่า 30,000 ตารางเมตร จะมีการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำหน้า สินค้าและบริการที่ทันสมัยของบริษัทชั้นนำระดับประเทศ รวมทั้งเป็นเวทีเปิดกว้างในการแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทยทีหลากหลายครบวงจร อาทิ CP Group ร่วมทรานสฟอร์มอุตสาหกรรมไทย ภายใต้แนวคิด Marking Today better Tomorrow ผ่าน Showcase โมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) นำยานยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และสถานีอัดประจุไฟฟ้าเทคโนโลยี Ultra Fast Charge ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาทีมาจัดแสดง, กลุ่มปตท. โชว์ศักยภาพและความก้าวหน้าของธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร, RV Connex นำเสนอความก้าวหน้าสู่อนาคตของอากาศยานไร้คนขับ และโดรนอเนกประสงค์, SCG นำทัพนวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชัน รักษ์โลกมาจัดแสดง, บริษัท ซันสวีท จำกัด ร่วมโชว์นวัตกรรมด้านเกษตรอุตสาหกรรม อาทิ นวัตกรรม การวัดความชื้นในดิน การใช้ข้อมูลจากดาวเทียม ฯลฯ และหัวเว่ย (ประเทศไทย) นำเทคโนโลยี และโซลูชั่น ด้านอุตสาหกรรม อาทิ Digital Transformation, Smart Retail, โซลูชันด้าน SeaPort, Mining ฯลฯ มาจัดแสดง
และพลาดไม่ได้กับ FTI FUTURE FORUM เวทีที่รวมสุดยอดซีอีโอชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายการขับเคลื่อนไทยสู่อนาคตในหัวข้อต่างๆ อาทิ พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย สู่การค้าแห่งอนาคต โดยคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, ก้าวใหม่อุตสาหกรรมไทย ในยุค New Normal โดยคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, ความท้าทาย COP26 กับบริบทการใช้พลังงานของประเทศไทย โดยคุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, Shaping Energy Industry and Beyond for Sustainable Future โดยคุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), Shaping 5G Industry Transition Towards Digital and Green Energy โดย ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น
ด้าน นายอนุชา มีเกียรติชัยกุล ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่ได้วางแผนพัฒนาจังหวัดระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ที่มีเป้าหมายเพื่อให้เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง เศรษฐกิจดี ประชากรอยู่ดีกินดี และสิ่งแวดล้อมดี โดยมองยุทธศาสตร์การพัฒนาใน 3 ประเด็น คือ การท่องเที่ยวที่เพิ่มมูลค่าสามารถปรับเข้ากับสถานการณ์ได้ การเกษตรที่แม่นยำใช้ระบบดิจิทัลบนพื้นฐาน BCG และการค้าการลงทุนบนพื้นฐานของนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งการจัดงานใหญ่อย่าง FTI EXPO 2022 ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกับสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ ได้เตรียมความพร้อมเปิดเมืองเพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานนี้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนั้นแล้ว ผู้ประกอบการในภูมิภาค 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้ร่วมกันเตรียมจัดงานนี้เพื่อแสดงพลังของภาคธุรกิจและการผลิตที่ทำให้ประเทศยังคงเดินหน้าต่อไปได้