"TSMC" กำไรพุ่ง 39% ทะลุ 14,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงเกินเป้า ตอกย้ำตลาดชิป-AI โตแกร่ง

บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ประกาศผลกำไรรายไตรมาสล่าสุด พุ่งสูงขึ้น 39% แซงหน้าการคาดการณ์ของตลาด ถือเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำว่าความต้องการชิ้นส่วนสำคัญอย่างชิปของอินวิเดีย (Nvidia) ที่ใช้ขับเคลื่อนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
TSMC รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสสิ้นสุดเดือนก.ย. ที่ 4.523 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์โดยเฉลี่ยไว้ที่ 4.055 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน ก่อนหน้านี้ บริษัทเคยรายงานรายได้ที่เติบโตกว่า 30% ซึ่งสูงเกินคาดเช่นกัน
ผลประกอบการดังกล่าวสะท้อนถึงเม็ดเงินลงทุนมหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ตั้งแต่โอเพนเอไอ (OpenAI) ไปจนถึงออราเคิล (Oracle) ที่ทุ่มให้กับศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในยุคหลัง ChatGPT
ผลประกอบการนี้เน้นย้ำสถานะของ TSMC ในฐานะผู้ผลิตชิปรายหลักให้กับแอปเปิ้ล (Apple) และบริษัทออกแบบชิปยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกระแสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม กระแสการลงทุนที่ร้อนแรงประกอบกับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับยุคฟองสบู่ดอทคอม เนื่องจากยังขาดแอปพลิเคชันและบริการ AI ที่เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน ความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคยังคงผันผวนจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนธุรกิจต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเตรียมรับมือกับผลกระทบ หลังจากจีนประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายากซึ่งจำเป็นต่ออุปกรณ์เทคโนโลยีส่วนใหญ่ และสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีและออกมาตรการจำกัดการขายซอฟต์แวร์ให้กับจีน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 ต.ค.) ASML ซัพพลายเออร์เครื่องจักรผลิตชิปรายใหญ่ของ TSMC เปิดเผยว่า ความต้องการเครื่องจักรผลิตชิปที่ซับซ้อนที่สุดของบริษัทกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยได้รับอานิสงส์โดยตรงจากความเฟื่องฟูของเทคโนโลยี AI
ด้านซี.ซี. เว่ย ซีอีโอของ TSMC ได้แสดงความเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ความต้องการด้าน AI จะยังคงยั่งยืน แต่ในเดือนก.ค. เขาได้เตือนถึงความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โดยรวม
ปัจจุบัน บริษัทได้ตั้งงบลงทุนสำหรับปีนี้ไว้ที่ 3.8-4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำลังขยายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุน 1.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างโรงงานในรัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายการลงทุนทั่วโลกที่ครอบคลุมทั้งยุโรปและญี่ปุ่น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
