รีเซต

“สุพัฒนพงษ์" สั่ง "คลัง"ลดภาษีนำเข้าอาหารสัตว์ ช่วยลดต้นทุนเกษตรกร แก้ของแพง

“สุพัฒนพงษ์" สั่ง "คลัง"ลดภาษีนำเข้าอาหารสัตว์ ช่วยลดต้นทุนเกษตรกร แก้ของแพง
มติชน
14 มกราคม 2565 ( 18:09 )
64

“สุพัฒนพงษ์” ยัน เงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบ 1-3% สินค้าแพงแค่บางตัว รัฐบาลพร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด มีมาตรการรองรับ สั่ง “คลัง”ลดภาษีนำเข้าอาหารสัตว์ ช่วยลดต้นทุนเกษตรกร แก้ของแพง

วันที่ 14 มกราคม 2564 ที่กระทรวงการคลัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือแนวทางการควบคุมอัตราเงินเฟ้อรวมถึงการใช้เงิน จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อบรรเทาเยียวยาประชาชนในช่วงรอยต่อ ซึ่งวันนี้ได้เชิญหน่วยงานทั้งในส่วนของกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. มาเพื่ออัพเดทข้อมูลล่าสุดเพื่อมาเปรียบเทียบกัน หลังสินค้ามีการปรับตัวสูงขึ้นนั้นว่าจะมีผลต่อกรอบเงินเฟ้อที่ได้กำหนดไว้ที่ 1% – 3% หรือไม่ ซึ่งจากการหารือก็ยังมีความเห็นว่ากรอบเงินเฟ้ออยู่ในกรอบที่กำหนดไว้

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า มีสินค้าในบางหมวดที่ต้องเข้าไปควบคุมราคาให้อยู่ในเป้าหมาย รวมทั้งต้องมีมาตรการเข้าไปดูแลราคา เนื่องจากขณะนี้ราคาสินค้ามีความผันผวน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ความต้องการบริโภคสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ซัพพลายตามไม่ทัน เพราะก่อนหน้านี้ภาคการผลิตเกิดภาวะหยุดชะงักเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้ากระโดดขึ้นมา แต่เชื่อว่าราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น จะเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และคงไม่นานถึงขั้นเป็นปี คงเป็นแค่ช่วงฤดูกาล แต่ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนนี้จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดขึ้น มีการพูดคุยกันมากขึ้น

“วันนี้เป็นหารือกันในเบื้องต้น เนื่องจากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเยอะ แตกต่างจากที่ประมาณการที่ได้พูดคุยกันในช่วงปลายปีมากพอสมควร จึงต้องมาปรับข้อมูลกัน ส่วนการหารือในวงใหญ่ ก็คงจะมีการพูดคุยอีกครั้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่มาตรการดูแลในช่วงเกิดภาวะที่เกิดปัยหาขึ้นกระทันหัน นั้น รัฐบาลได้ออกมาตรการเข้าไปดูแลควบคุมราคา เช่น เนื้อสุกร กระทรวงพาณิชย์ก็มีมาตรการเข้าไปดูแล ซึ่งจะมีการติดตามว่ามาตรการดังกล่าวได้ผลหรือไม่ ส่วนกระทรวงการคลัง จะเข้าไปดูเรื่องต้นทุน ผ่านมาตรการภาษี เช่น การลดภาษีนำเข้าอาหารสัตว์ เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพลังงาน นอกจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิด 30 บาทต่อลิตรแล้ว ถ้าพบว่าก๊าซธรรมชาติที่วันนี้ยังต้องนำเข้าในราคาสูง จะสามารถหาเชื้อเพลิงมาใช้ทดแทนได้หรือไม่ หรือการจัดหาไฟฟ้าจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งเป็นไปตามมติ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง