หวั่นธุรกิจรายย่อยล้ม "น้ำท่วมใต้" กระทบ SME หนัก สสว.เผยเสียหายวันละ 1,500 ล้านบาท ชี้ต้นทุนหาย รายได้ไม่มี

"น้ำท่วมใต้" กระทบธุรกิจ SME เสียหายวันละ 1,500 ล้าน หากยืดเยื้อ 4 เดือนพุ่งแตะ 15,000 ล้าน ชี้ต้นทุนหาย รายได้ไม่มี หวั่นธุรกิจล้ม
นายวิทวัส ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ปัจจุบันกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และมูลค่าความเสียหายอย่างมากใน 7 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากเป็นจุดที่มีเอสเอ็มอีหนาแน่น
โดยประเมินว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบรวมกว่า 2 แสนราย มูลค่าความเสียหายรวมอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อวัน หากผลกระทบต่อเนื่องไป 1 เดือน คาดว่าความเสียหายรวมจะสูงถึง 10,000-15,000 ล้านบาท ส่วนมากเป็นธุรกิจที่อยู่ใน ตึกแถว หรือเป็นเทรดเดอร์ ในพื้นที่หาดใหญ่ ความเสียหายหลักคือ สถานที่ประกอบการเสียหาย และสินค้าในสต็อกเสียหาย ส่งผลให้ต้นทุนหายและรายได้ไม่มี กระทบสองต่อ ธุรกิจแทบยืนไม่อยู่
"สสว." จ่อชง 2 มาตรการช่วย SME "น้ำท่วมใต้" สินเชื่อ-จัดซื้อพิเศษ พยุงเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สสว. พยายามผลักดันมาตรการช่วยเหลือออกมาผ่านเครื่องมือที่มีอยู่ โดยกำลังดำเนินการและเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือ 2 ส่วนหลัก ประกอบไปด้วย
1.การปรับปรุงโครงการ BDS (Business Development Service) ผ่านการเสนอให้มีการ ขยายวงเงิน ความช่วยเหลือจาก 200,000 บาท เป็น 500,000 บาทต่อราย เพื่อช่วยซ่อมแซมสถานประกอบการ และกู้ฟื้นต้นทุนพื้นฐาน
2.การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเสนอให้มีการพิจารณาพิเศษสำหรับ SME ที่ประสบปัญหาใน 7 จังหวัด โดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าถึงงานภาครัฐก่อน เพื่อให้มีรายได้ไหลกลับสู่ระบบทันที
นอกจากนี้ทางสสว.จะเตรียมนำเสนอมาตรการอื่นๆ เสนอให้รัฐบาลอนุมัติ ได้แก่ สินเชื่อเพื่อให้เอสเอ็มอี นำไปปรับปรุงสภาพสถานที่ประกอบการ และชดเชยค่าใช้จ่ายในการซื้อ สต็อกสินค้าใหม่ และ อุปกรณ์ต่างๆ ที่เสียหาย โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันปรับสภาพธุรกิจให้กลับมาทำงานได้อย่างเดิม พร้อมย้ำว่าความช่วยเหลือจำเป็นต้องลงพื้นที่อย่างเร็วที่สุด ก่อนความเสียหายจะขยายจนกลายเป็นภาระยากเยียวยาในระยะยาว พร้อมจับมือหลายหน่วยงานเพื่อผลักดันมาตรการให้ทันต่อสถานการณ์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
