รีเซต

กทม.เร่งรัดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นกลุ่ม 608 เตรียมพร้อมรับเทศกาลสงกรานต์

กทม.เร่งรัดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นกลุ่ม 608 เตรียมพร้อมรับเทศกาลสงกรานต์
มติชน
24 มีนาคม 2565 ( 17:15 )
52

วันนี้ (24 มีนาคม 2565) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2565 ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) และผ่านระบบทางไกล ว่าที่ประชุมได้รายงานผลการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของ กทม. (ข้อมูลสะสมถึงวันที่ 22 มีนาคม 2565) ฉีดสะสม 24,539,527 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 ฉีดแล้ว 9,746,527 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 115.87 เข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 8,880,928 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 105.58 เข็มที่ 3 ฉีดแล้ว 5,161,062 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 61.36 เข็มที่ 4 ฉีดแล้ว 751,010 โดส ความครอบคลุม ร้อยละ 8.93

 

“สำหรับผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มนักเรียนอายุ 5-11 ปี เข็มที่ 1 ฉีดแล้ว 231,540 โดส คิดเป็น ร้อยละ 59.29 เข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 21,976 โดส คิดเป็น ร้อยละ 5.63 กลุ่มนักเรียนอายุ 12-17 ปี เข็มที่ 1 ฉีดแล้ว 329,239 โดส คิดเป็น ร้อยละ 91.23 เข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 301,906 โดส คิดเป็น ร้อยละ 83.66 ส่วนผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป้าหมายประชากร กลุ่ม 608 จำนวน 2,214,467 คน ครอบคลุมเข็มที่ 1 คิดเป็น ร้อยละ 91.15 ครอบคลุมเข็มที่ 2 คิดเป็น ร้อยละ 83.23 ครอบคลุมเข็มที่ 3 คิดเป็น ร้อยละ 51.76 กลุ่ม 60 ปีขึ้นไป จำนวน 1,352,564 คน ครอบคลุมเข็มที่ 1 คิดเป็น ร้อยละ 83.10 ครอบคลุมเข็มที่ 2 คิดเป็น ร้อยละ 74.61 ครอบคลุมเข็มที่ 3 คิดเป็น ร้อยละ 47.34” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว

 

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในส่วนของคำแนะนำการให้วัคซีนโควิด-19 จากการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 การฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ดังนี้ 1.แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 2 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป 2.แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 3 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป กรณีกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์  สามารถฉีดขนาดครึ่งโดสได้ ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์และความสมัครใจของผู้รับวัคซีน ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในเด็กอายุ 12-17 ปี แนะนำให้เด็กอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เข้ารับวัคซีนชนิด mRNA เป็นเข็มที่ 3 ขนาดโดสมาตรฐาน โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 2 เป็นเวลาตั้งแต่ 4-6 เดือนขึ้นไป การให้วัคซีนโควิด-19 ในผู้ที่มีประวัติติดเชื้อ แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ที่มีประวัติติดเชื้อ ได้ตามหลักการเดียวกับผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อ โดยให้วัคซีนหลังจากการติดเชื้อ เป็นเวลา 3 เดือน

พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการเร่งรัดฉีดเข็มกระตุ้นในกลุ่ม 608 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 ซึ่งประชาชนจะเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา อาจเกิดการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ดังนี้ 1.เร่งประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน โดยเน้นกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดอัตราการเสียชีวิตให้น้อยลง 2.ขอความร่วมมือสถานพยาบาลทุกแห่งจัดกิจกรรมรณรงค์การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่ม 608 โดยเพิ่มช่องทางบริการวอล์ก อิน (Walk in) 3.เพิ่มช่องทางการรับวัคซีนแบบวอล์ก อิน ในจุดฉีดนอกสถานพยาบาล 4.เร่งดำเนินงานโครงการ ผอ.เขตเดินดิน อย่างต่อเนื่อง 5.ขอความร่วมมือให้อาสาสมัครสาธารณสุขสำรวจกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 6.สำรวจผู้สูงอายุที่มีประวัติติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เข้ารับการฉีดวัคซีน 7.ออกหน่วยบริการเชิงรุกหรือหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ (BKK Mobile Vaccination Mobile : BMV) เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกในชุมชนให้กับผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกเดินทาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง