คลัง-กรมธนารักษ์ ลงนามกองทัพบก เนรมิต 'สวนป่าเบญจกิติ' ผุดพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุง
คลัง-กรมธนารักษ์ ลงนามกองทัพบก เนรมิต ‘สวนป่าเบญจกิติ’ ผุดพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุง แหล่งเรียนรู้พระราชกรณียกิจ-พันธุ์ไม้หายาก
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันที่ 26 ตุลาคม มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการก่อสร้างสวนป่า“เบญจกิติ” ระยะที่ 2–3 ระหว่าง กรมธนารักษ์กับ กองทัพบก โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้ โครงการจัดสร้างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ ที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่มีวัตถุประสงค์ในการเปิดให้กับประชาชนได้มาใช้ประโยชน์ในกิจกรรมด้านต่างๆ ภายหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565
โดยแบ่งพื้นที่สีเขียวอาคารนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ที่จะให้เกิดการเรียนรู้งานพระราชกรณียกิจให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาดูงาน รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนออกกำลังกายของคนกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันยังเป็นแหล่งเรียนรู้พันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ที่หาได้ยาก โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ประจำพระองค์ พร้อมทั้งการนำเทคโนโลยีติดตั้งพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) เพื่อใช้เป็นพลังงานส่องสว่างภายในพื้นที่ และติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนาทำให้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพื่อเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
สำหรับการพัฒนาก่อสร้างโครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ภายหลังจากที่การยาสูบแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ส่งมอบพื้นที่เพื่อน้อมเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ประโยชน์ ในพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม ที่ได้มีการส่งมอบ คือ ส่วนที่ 1 เนื้อที่ประมาณ 130 ไร่ ออกแบบเป็นสวนน้ำ ตามแนวพระราชดำริ “ป่ารักน้ำ” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้กระทรวงการคลัง โดย กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการก่อสร้างสวนน้ำแล้วเสร็จในปี 2547 และส่งมอบพื้นที่สวนน้ำให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ ส่วนที่ 2 เนื้อที่ประมาณ 320 ไร่ การก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” โดยกรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการในระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ เป็นที่เรียบร้อย เมื่อปี 2559 และได้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ในการลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นการออกแบบและก่อสร้างระยะที่ 2-3 บนพื้นที่ 259 ไร่ ด้วยงบประมาณ 652 ล้านบาท ได้ให้บริษัท สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด เป็นผู้ออกแบบ ภายใต้แนวคิด “การสืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในการปลูกป่าในใจคน ด้วยการเป็นสวนป่าสำหรับคนเมือง เป็นแหล่งเรียนรู้มีชีวิตที่สร้างการมีส่วนร่วม ความผูกพัน และสำนึกรักหวงแหนในคุณค่าของป่า น้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565โดยระยะ 1 เริ่มก่อสร้างเดือนพฤศจิกายน 2563 แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปี 2564 เพื่อมีช่วงเวลาสำหรับเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ส่วนระยะ 2 ทางกองทัพบกจะเข้าไปก่อสร้างในส่วนของอาคารและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานแล้วเสร็จและเปิดให้บริการประชาชนเข้าชมได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565