"สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีจีน สวมบทบาท "ผู้พิทักษ์เอเชีย" ผนึกกำลังชาติอาเซียนต่อสู้ภาษีทรัมป์

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกจับตาการเดินทางเยือน 3 ชาติอาเซียนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา 

การเดินทางเยือนภูมิภาคนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง จากภาษีต่างตอบแทนของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บังคับใช้กับจีนมากถึง 145% ส่วนจีนก็ตอบโต้ด้วยภาษี 125% กับอเมริกา

ถ้อยแถลงและพฤติการณ์ของผู้นำจีนในการเยือนอาเซียนครั้งนี้ เน้นย้ำถึงความเป็นเอกภาพ ความร่วมมือ และการต่อต้านลัทธิกีดกันทางการค้า และล่าสุด ในการเยือนมาเลเซีย เขาประกาศว่า จีนจะพิทักษ์พัฒนาการของชาติเอเชีย เพราะทุกชาติเอเชีย คือ “ครอบครัวเดียวกัน”

ประธานาธิบดีจีน ขึ้นกล่าวระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อ 16 เม.ย. มีใจความ ดังนี้ 

“เรากำลังเผชิญแรงสั่นไหวต่อระเบียบโลกและโลกาภิวัฒน์ แต่จีนและมาเลเซีย จะร่วมกับนานาประเทศเอเชีย เพื่อต่อสู้กับแรงกระเพื่อมทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อก้าวข้ามกระแสหลักคิดเอกภาพนิยม และการกีดกัน เพื่อพิทักษ์การพัฒนาของเอเชียที่เรามีร่วมกัน” เขากล่าว

“ในห้วงเวลาที่หลักพหุภาคีนิยม กำลังล่มสลาย เมื่อบางประเทศละทิ้งความรับผิดชอบ บางประเทศตั้งคำถามถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ แต่นโยบายริเริ่มของจีนนี่แหละจะเป็นความหวังใหม่ เพราะเป็นนโยบายที่มองออกไปสู่โลกภายนอก ไม่ได้มองแต่ตัวเอง ด้วยแนวคิดไม่แข่งขัน แต่เป็นการสร้างใหม่”

สำนักข่าว AFP วิเคราะห์ว่า ท่าทีของสี จิ้นผิง ตรงกันข้ามกับโดนัลด์ ทรัมป์ ชัดเจน ในศึกภาษีครั้งนี้ คือ หากทรัมป์เป็นความไม่แน่นอน สี จิ้นผิง ก็คือความคงเส้นคงวา พึ่งพาได้

คู่ หยิง ฮุ่ย นักวิชาการมหาวิทยาลัยมาลายาในมาเลเซีย ชี้ว่า การเดินหมากครั้งนี้ของจีน คำนวณมาหมดแล้ว และการเยือนอาเซียนในห้วงเวลานี้ ก็เป็นการแสดงให้สหรัฐฯ เห็นถึงความเป็นเอกภาพ ในห้วงเวลาที่ทรัมป์กำลังปั่นป่วนตลาดการค้าโลก 

โดยเฉพาะหากคำนึงว่า มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ล้วนเป็นประเทศที่เจอภาษีต่างตอบแทนของทรัมป์อย่างหนักหน่วง 

ถ้อยคำที่อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเวีย กล่าวแบบหยอดคำหวานให้ผู้นำจีน ยิ่งตอกย้ำถึงความเป็นเอกภาพที่ชาติเอเชียจำนวนไม่น้อย พร้อมยืนหยัดกับจีน เพื่อต่อกรกับภาษีทรัมป์

“ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นมิตร เป็นเพื่อนของมาเลเซีย การเดินทางเยือนมาเลเซียอีกครั้งของประธานาธาธิบดีสี จิ้นผิง ตอกย้ำถึงความเป็นพันธมิตรบนพื้นฐานของความเคารพ และเต็มเปี่ยมด้วยสายใยทางวัฒนธรรม และเป้าหมาย” อันวาร์กล่าว

“มาเลเซียและจีน ยืนหยัดร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตมาหลายครั้ง ด้วยความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความเชื่อว่า เราจะก้าวไปไกลยิ่งกว่า เมื่อเราเดินไปร่วมกัน ไม่เพียงเพื่อประเทศของเราเอง แต่เพื่อสันติสุขและความมั่งคั่งของภูมิภาค”

“ผ่านมากว่าทศวรรษแล้ว นับแต่ประธานาธิบดีสี เยือนมาเลเซียครั้งล่าสุด โลกได้เปลี่ยนไปมาก แต่มิตรภาพระหว่างมาเลเซียและจีน ยังเหนียวแน่น ผ่านการหารือกับการปฏิบัติ” 

“ไม่มีอะไรที่ยากเกินไปในโลกนี้ หากจิตใจเข้มแข็ง... ในห้วงเวลาแห่งความวุ่นวาย จีนยืนหยัดอย่างเข้มแข็งและสมเหตุสมผล และเป็นคู่ค้าที่เชื่อถือได้ มาเลเซียให้คุณค่ากับเสถียรภาพนี้ และมาเลเซียให้คำมั่นจะเป็นมิตรของจีน ด้วยองค์ความรู้จากประวัติศาสตร์ และคำมั่นสัญญาของอนาคต” ผู้นำมาเลเซีย ทิ้งท้าย