โควิด-19 : จีนชูสถิติเลิศซิโนแวค หลังไทยพบบุคลากรการแพทย์ฉีดแล้วยังติด

สถานเอกอัครราชทูตจีนในศรีลังกา ทวีตข้อความตอบโต้รอยเตอร์ที่เสนอข่าวบุคลากรทางการแพทย์ไทยติดเชื้อโรคโควิด-19 หลายร้อยคนแม้จะได้รับวัคซีนซิโนแวคครบทั้งสองโดสแล้วก็ตาม
ในทวิตเตอร์ของสถานทูตจีนในศรีลังกาที่โพสต์วันที่ 11 ก.ค. มีข้อความเชิงตำหนิสำนักข่าวรอยเตอร์ที่รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขไทยว่ามีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กว่า 600 คนติดโควิดแม้ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบถ้วนแล้ว และทางการกำลังพิจารณาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่เจ้าหน้าที่
ทวิตเตอร์สถานทูตจีนระบุว่า รอยเตอร์นำเสนอตัวเลขดังกล่าวในทางที่อาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิด พร้อมชี้ว่าควรนำเสนออัตราประสิทธิภาพที่แท้จริงของวัคซีนซิโนแวคมากกว่า
"พยายามดีมากรอยเตอร์ แต่ทำไม่ถึงไม่แสดงอัตราประสิทธิภาพที่แท้จริง (ของวัคซีน) แทนการพาดหัวข่าวที่สร้างความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง พวกคุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่"
ทวิตเตอร์สถานทูตจีนพยายามเทียบข้อมูลให้เห็นถึงจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ไทย 677,348 คน ที่ได้รับวัคซีนของซิโนแวคครบ 2 โดสกับจำนวนผู้ติดโควิด 618 คน ที่รอยเตอร์นำเสนอ
"ซิโนแวค แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้ 99.9078% และมีประสิทธิภาพ 99.999% ในการป้องกันการเสียชีวิตและการป่วยรุนแรงให้แก่บุคลากรการแพทย์ในไทย 677,348 คน" ทวิตเตอร์สถานทูตจีนในศรีลังการะบุ
นักการทูตตะวันตกมองว่า การกระทำเช่นนี้คือส่วนหนึ่งของนโยบาย "การทูตของนักรบหมาป่า" (wolf warrior diplomacy) ซึ่งหมายถึง การที่นักการทูตระดับสูงของจีนตอบโต้ทันควัน แฝงด้วยน้ำเสียงเสียดสี แข็งกร้าว ตรงไปตรงมา ต่อชาติที่กล่าวหาจีนในประเทศที่พวกเขาประจำการอยู่ หรือใกล้เคียง
ชื่อของ "กองพันหมาป่า" มาจากภาพยนตร์จีนยอดนิยม 2 เรื่อง Wolf Warrior และ Wolf Warrior 2 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ หน่วยรบพิเศษของจีนออกมาปราบปรามสกัดการรุกรานของทหารรับจ้างชาวอเมริกัน และได้รับความนิยมมากในจีน
ข่าวจากไทย
การตอบโต้มีขึ้น หลังจากไทยแถลงว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิดแล้ว 880 ราย แม้ฉีดวัคซีนแล้ว 97%
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อ 11 ก.ค. ยอมรับว่าการระบาดในระลอกเดือน เม.ย. ถึงวันที่ 10 ก.ค. มีรายงานผู้ติดเชื้อในกลุ่มบุคลากรการแพทย์จำนวน 880 ราย ในจำนวนนั้นราว 19.7% ไม่มีประวัติรับวัคซีนต้านโควิด-19
ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดย 54% เป็นพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล รองลงมาคือ บุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย 28% ตามมาด้วยแพทย์/ทันตแพทย์ (7%) แม่บ้าน (6%) เป็นต้น ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี
ทั้งนี้ บุคลากรทางแพทย์ได้รับวัคซีนไปแล้วมากว่า 97% จากเป้าหมายทั้งหมดราว 700,000 คน โดยมีรายงานว่ามีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ในจำนวนนั้นไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 5 ราย ได้รับวัคซีนซิโนแวคไม่ครบจำนวน 1 ราย และได้รับวัคซีนซิโนแวคครบโดสอีก 1 ราย
อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่า นี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้เห็นความสำคัญของการรับวัคซีน และยังยืนยันว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสป่วยรุนแรงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสตั้งแต่เดือน มิ.ย. - ก.ค. จากเดิมที่เป็นสายพันธุ์อัลฟามาเป็นสายพันธุ์เดลตา จึงทำให้การป้องกันโดยวัคซีนโควิด-19 ชนิดชิโนแวคอาจจะไม่ได้ผลดีเท่าเชื้อเดิม ดังนั้นผู้ที่รับวัคซีนชิโนแวคสองเข็มไปแล้ว โดยเฉพาะบุคลากรทางแพทย์จำเป็นต้องได้วัคซีนกระตุ้นอีกหนึ่งเข็ม
ต่างประเทศเป็นอย่างไร
เมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯ อังกฤษ และอิสราเอล รายงานการพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต แม้จะได้รับวัคซีนครบถ้วนจำนวนหลายพันราย
ในสหรัฐฯ ที่ใช้วัคซีนไฟเซอร์ และ โมเดอร์นาเป็นหลัก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ว่า มีรายงานพบผู้เข้าโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตจากโควิด-19 แม้จะได้รับวัคซีนครบแล้วกว่า 4,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 750 คน และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 3,907 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
นายเชซี เลวี อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ระบุว่า แม้ประชาชนในอิสราเอลได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 80% แต่กลับพบว่าสายพันธุ์เดลตา มีสัดส่วน 70% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ โดยเขาชี้ว่า 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่นี้เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว
ความกังวลจากเชื้อกลายพันธุ์เดลตา
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงเล็กน้อยในการต่อสู้กับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์อัลฟา ที่ตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร และสายพันธุ์เดลตา ที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย
ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตาจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีน 2 โดสของไฟเซอร์ลดลงมาอยู่ที่ 88% จากเดิม 95% แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ผู้ติดโควิดหลังจากได้รับวัคซีนครบแล้วนั้นเป็นผลมาจากเชื้อกลายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่
ปัจจุบัน เดลตาได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหราชอาณาจักร จึงทำให้มีความกังวลว่าวัคซีนหลักที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา จะ "เอาไม่อยู่"
ระหว่าง 1 ก.พ. ถึง 22 มิ.ย. มีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาจำนวน 92,029 ราย ส่วนใหญ่เป็นตัวเลขของ มิ.ย. โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดนี้ 58% ยังไม่ได้รับวัคซีน และเพียง 8% เท่านั้นที่ได้รับครบ 2 เข็มแล้ว เมื่อดูบริบทก็พบว่า ช่วงต้น มิ.ย. นั้น กว่าครึ่งของประชากรผู้ใหญ่ก็รับวัคซีนกันครบ 2 โดสแล้ว
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตในช่วงเดียวกัน มี 117 คนที่เสียชีวิตเพราะสายพันธุ์เดลตา และ 50 คน ในนั้นได้รับวัคซีนครบแล้ว
นิก ทริกเกิล ผู้สื่อข่าวด้านสุขภาพของบีบีซีบอกว่า แท้จริงแล้ว คนจำนวนมากมายที่ได้วัคซีนครบ ก็ไม่ติด ไม่ตาย เพราะวัคซีนมีประสิทธิภาพ โดยผลการประเมินของ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ที่ออกมาเมื่อ 28 มิ.ย. บ่งชี้ว่าแผนการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ของรัฐบาลนี้ ช่วยป้องกันคนติดเชื้อโควิดได้ 7.2 ล้านคน และช่วยสกัดการเสียชีวิตได้ถึง 27,000 คน
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
