รีเซต

BBLAM เปิดธีมลงทุนปี65 ฟ้าเปิดศก.ไทยพ้นจุดต่ำ

BBLAM เปิดธีมลงทุนปี65 ฟ้าเปิดศก.ไทยพ้นจุดต่ำ
ทันหุ้น
9 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:53 )
120

#BBLAM #ทันหุ้น บลจ.บัวหลวง มั่นใจเศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำ หุ้นดีดขึ้นรับข่าวอนาคต การกลับมาของภาคท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโอกาสในการลงทุน ขณะเดียวกันก็ยังสามารถลงทุนระยะยาวในธีม ESG ภายใต้คอนเซ็ปการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

 

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยนับว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยเวลานี้อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงฟ้าเปิดที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ จะเริ่มทยอยดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพียงแต่การกลับไปสู่จุดที่เคยเป็นก่อนวิกฤติการณ์โควิด-19 ยังคงต้องใช้เวลา เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกที่ไม่แน่นอน เช่น นโยบาย Zero-Covid ของจีน ซึ่งห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อรายได้ภาคบริการและการท่องเที่ยวเกือบ 1 ใน 4ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทยในแต่ละปี

 

จากการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมซึ่งมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจและสถานการณ์การลงทุน รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจที่มีความรับผิดชอบตามมาตรฐานที่ยอมรับในระดับสากล โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และตระหนักถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่ BBLAM นำมาเป็นหลักการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างต่อเนื่องเสมอมา จึงสะท้อนมุมมองธีมการลงทุนสำหรับปี 2565 คือ "Blue Sky, Green Ocean" ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ธีมนี้สำหรับการลงทุนต่อเนื่องไปในระยะยาว

 

นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน BBLAM กล่าวว่า ภายใต้ธีมการลงทุน "Blue Sky, Green Ocean" จะเห็นว่าตลาดหุ้นมักตอบรับข่าวดีไปล่วงหน้าก่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจไทยเวลานี้เตรียมพร้อมกลับสู่ช่วงขาขึ้น จากการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมาฟื้นตัว จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในหุ้นไทย

 

ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับ ESG ในลำดับต้นๆ ผู้บริโภคเน้นมองหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Eco-Friendly มากขึ้น ตลอดจนการใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของตนเองและคนที่รัก ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจต่างออกมาปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน เช่น บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตั้งเป้าจะใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้ทั้ง 100%

 

ภายในปี 2568 หรือบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นบริษัทที่ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ (Climate positive) ซึ่งเป็นอีกขั้นกว่าของการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon neutral) ภายในปี 2573หรือยอดขายของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตมาก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกค่ายทยอยเปิดตัวรถยนต์ EV ในปีที่ผ่านมา

 

จากปัจจัยนี้เอง ทำให้เห็นว่าการลงทุนที่สอดคล้องกับเทรนด์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมคือแนวโน้มที่กำลังเติบโตได้ในระยะยาว สอดคล้องกับแนวคิด ESG ที่ BBLAM เห็นความสำคัญมาก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากมองว่า ESG จะเป็นส่วนสนับสนุนให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบเชิงลบทางธุรกิจ อันจะนำมาซึ่งผลการดำเนินงานที่มีโอกาสเติบโตได้อย่างมั่นคง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง