อีลอน มัสก์เผยความคืบหน้าโครงการ Starship และเป้าหมายระยะยาวของ SpaceX ในงาน Mars & Beyond : The Road to Making Life Multiplanetary

วันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัท SpaceX จัดงาน Mars & Beyond : The Road to Making Life Multiplanetary เพื่ออัปเดตความก้าวของเทคโนโลยีอวกาศ ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ และดาวอังคาร การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการทดสอบยาน Starship ครั้งที่ 9 ซึ่งยานได้เสียการควบคุมบนอวกาศและถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลก
เมืองแห่งอนาคต: จุดเริ่มต้นที่ Starbase
อีลอน มัสก์ เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึง Starbase เมืองใหม่ที่กำลังเติบโตในรัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของภารกิจพาเผ่าพันธุ์มนุษย์เดินทางไปยังดาวเคราะห์อื่นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 4.5 พันล้านปีของโลก SpaceX ใช้เวลาเพียง 5-6 ปีในการสร้างทั้งเมืองและโรงงานผลิตจรวดขนาดใหญ่ โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันยาน Starship สามารถผลิตได้ทุก 2-3 สัปดาห์ แม้จะอยู่ระหว่างการปรับปรุงการออกแบบอย่างต่อเนื่อง
Starship: ยานขนาดยักษ์ที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรม
มัสก์อธิบายว่า Starship ถูกออกแบบให้ผลิตได้ถึง 1,000 ลำต่อปี ซึ่งเทียบกับปริมาณการผลิตของ Boeing และ Airbus การสร้างยานอวกาศในระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าดาวเทียม Starlink รุ่นที่ 3 ก็จะผลิตมากถึง 5,000–10,000 ดวงต่อปี ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับเครื่องบินพาณิชย์ขนาดกลาง
จรวดนำกลับมาใช้ใหม่: กุญแจสู่การลดต้นทุนอวกาศ
บริษัท SpaceX บรรลุเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาระบบจรวดที่สามารถจับ และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ภายในเวลาสั้น ๆ ซึ่งมัสก์เปรียบว่าเป็นการพลิกโฉมการเดินทางอวกาศอย่างแท้จริง จรวดสามารถลงจอดและถูกใช้ซ้ำได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความถี่ในการเดินทางสู่อวกาศในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
Raptor 3: หัวใจขับเคลื่อนภารกิจอังคาร
เครื่องยนต์ Raptor 3 เป็นหัวใจสำคัญของ Starship ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีพลังสูงขึ้นและไม่จำเป็นต้องใช้เกราะกันความร้อนพื้นฐาน ความสามารถในการถ่ายโอนเชื้อเพลิงในวงโคจร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญสำหรับการเดินทางไกลระหว่างดาวเคราะห์ ก็กำลังอยู่ในขั้นพัฒนาอย่างเข้มข้น
โล่ความร้อนและการใช้ซ้ำในหลายโลก
อีกหนึ่งความท้าทายที่มัสก์เน้นคือการพัฒนา โล่กันความร้อนแบบใช้ซ้ำได้ ที่สามารถรองรับทั้งการกลับสู่โลกและการลงจอดบนดาวอังคาร ซึ่งมีบรรยากาศแตกต่างจากโลกอย่างสิ้นเชิง จุดมุ่งหมาย คือ การออกแบบให้ใช้โครงสร้างและวัสดุเดียวกัน เพื่อให้สามารถทดสอบและใช้งานได้จริงในหลายสภาพแวดล้อม
Starship รุ่นใหม่: ปรับปรุงเพื่อรองรับภารกิจระยะไกล
Starship รุ่นที่ 3 มีการปรับปรุงรูปลักษณ์และสมรรถนะของเครื่องยนต์ Raptor เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อย่างรวดเร็วและรองรับการเดินทางสู่ดาวอังคารได้จริง มัสก์ระบุว่าแม้จะเริ่มปล่อยใช้งานในปีนี้ แต่จุดมุ่งหมายหลักคือการปูทางไปสู่การเป็น “เผ่าพันธุ์หลายดาวเคราะห์”
ฐานบนดวงจันทร์ และการเดินทางจริงสู่ดาวอังคาร
อีลอน มัสก์ เผยแผนการสร้างฐานบนดวงจันทร์เพื่อใช้ในการวิจัยและเตรียมความพร้อมในการเติมเชื้อเพลิงในวงโคจร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการเดินทางไปดาวอังคาร โดยรอบการเดินทางสู่ดาวอังคารจะเกิดขึ้นทุก 2 ปี และอาจมีการส่งยานไร้คนขับลำแรกไปยังดาวอังคารภายในปลายปีหน้า 2026
อนาคตของการตั้งถิ่นฐาน: Starlink และหุ่นยนต์ Optimus
ในระยะยาว มัสก์ตั้งเป้าจะส่งหุ่นยนต์ Optimus ไปยังดาวอังคารในปี 2027 ตามด้วยมนุษย์ในภารกิจถัดไป Starlink จะถูกใช้เป็นระบบสื่อสารหลัก แม้จะเผชิญความท้าทายด้านระยะทางและสภาพแวดล้อม เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ดาวอังคารสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยเร็วที่สุด และสร้างเมืองถาวรที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลักเพื่อความยั่งยืนของชีวิต