โลตัส (LOTUS) เปิดตัว โลตัส อีเลททร้า “Lotus Eletre” ไฮเปอร์เอสยูวีไฟฟ้าแนวไลฟ์สไตล์รุ่นแรกของแบรนด์ ตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะแต่ยังคงความหรูหราพร้อมประสบการณ์การขับขี่แบบ Lotus แม้ว่าจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในราคาเริ่มต้น 5,890,000 บาท เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา

ข้อมูล Lotus Eletre: Hyper-SUV ไฟฟ้า 100%

โลตัส สร้าง Lotus Eletre ภายใต้ไฮเปอร์เอสยูวีรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “เกิดในอังกฤษ ผงาดสู่ระดับโลก” โดยวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Eletre S และ Eletre R 

รายละเอียด Lotus Eletre: Eletre S

Lotus Eletre ทั้ง 2 รุ่นจะติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 800 โวลต์ 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ชาร์จไฟจากร้อยละ 10-80 ในเวลา 20 นาที มีมอเตอร์เดี่ยวในรุ่นพื้นฐาน ที่ให้กำลัง 603 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาที และวิ่งได้ระยะทาง 600 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP 

ในรุ่น Eletre S ที่เป็นมาตรฐานของ Lotus จะติดตั้ง ระบบถุงลมกันสะเทือนแบบแอ็กทีฟ (Active Air suspension) พร้อมระบบ Lotus Intelligent Dynamic Chassis Control, ล้อขึ้นรูป 5 ก้าน ที่มีขนาด 22 นิ้ว เคลือบผิวแบบ Diamond-turned , ไฟหน้า Matrix LED, ระบบ Adaptive Cruise Control รวมถึงระบบ Visual Park Assist 

ส่วนภายในติดตั้งระบบปรับอากาศ 4 โซน, เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง, เทคโนโลยีแสดงผลบนกระจกหน้ารถแบบ Head-up Display ขนาด 20 นิ้ว, ระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ซอฟต์แวร์รองรับการอัปเดตแบบ Over-the-ar (OTA) รวมถึงระบบเสียง KEF Premium Audio กำลังขับ 1,380 วัตต์ (W) จำนวน 15 ตัว

รายละเอียด Lotus Eletre: Eletre R

ในรุ่น Eletre R จะใช้ระบบมอเตอร์คู่ พละกำลังสูงสุด 905 แรงม้า และวิ่งได้ระยะทาง 490 กิโลเมตรต่อรอบการชาร์จ พร้อมเพิ่มโหมดการขับขี่แบบ Track Mode สำหรับสนามแข่ง สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาไม่ถึง 3 วินาที ซึ่ง Lotus เคลมกว่า Eletre R เป็นเอสยูวีไฟฟ้าแบบสองมอเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ เวลานี้  

Lotus Eletre R นอกจากจะให้ระบบมาตรฐานแบบเดียวกับใน Eletre S แล้ว ยังติดตั้งระบบปิดประตูแบบนุ่มนวล, กระจกเคลือบเพิ่มความเป็นส่วนตัว, สปอยเลอร์หลังแบบแอ็กทีฟ, ระบบไฟตกแต่งในห้องโดยสารที่ตั้งค่าได้, กาบประตูเรืองแสง, ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ, ระบบเสียง KEF Reference 2,160 วัตต์ จำนวน 23 ลำโพง และล้อขึ้นรูปขนาด 22 นิ้ว แบบ 10 ก้าน ในเฉดสีเทาพร้อมทำผิวแบบ Diamond-turned เช่นกัน

ส่วนระบบภายใน Eletre R จะเพิ่มเติมระบบช่วยการขับขี่ที่เรียกว่า Lotus Dynamic Handling Pack ซึ่งประกอบไปด้วย Intelligent Active Roll Control และ Active Rear Steering ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์, ยางสมรรถนะสูงรุ่น Pirelli P Zero และการเคลือบสี ล้อโทนดำเงา 

เจาะลึกเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารของ Lotus Eletre

Lotus Eletre สร้างระบบที่เรียกว่า “ค็อกพิตดิจิทัล (Digital Cockpit)" ซึ่งติดตั้งชิปเซ็ตควอลคอมม์ (Qualcomm) สำหรับประมวลผลระบบปฏิบัติการ Lotus Hyper OS พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ 5G ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง

ภายในรถได้ติดหน้าจอแบบโอเล็ด (OLED) หลายตำแหน่งสำหรับระบบนำทางขั้นสูง รองรับการชาร์จไร้สาย และรองรับระบบ ADAS ที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ ผ่าน

เซ็นเซอร์ 34 ตำแหน่ง และกล้องวัดระยะแบบ LiDAR ทั้งหมดทำงานบนชิปเซ็ตเอ็นวิเดีย โอริน เอกซ์ (NVIDIA Orin-X) จำนวน 2 ตัว ซึ่งรองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับที่ 4 (Level 4 Autonomous Driving) ในอนาคต

ตัวรถได้ติดตั้งฟีเชอร์ Highway Assist ที่ช่วยจัดการความเร็วและจัดการตำแหน่งรถยนต์ในช่องทาง โดยใช้ความเร็วระหว่าง 30-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบ Driver Monitoring System จะแจ้งเตือนหากผู้ขับขี่เกิดอาการเหนื่อย ล้าหรือเสียสมาธิ และระบบ Life Detection and Care ที่ช่วยป้องกันเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในรถเมื่ออากาศร้อนจัด และโทรหาหน่วยฉุกเฉินหากเกิดเหตุจําเป็น

ตลาดและลูกค้าของ Lotus Eletre ในประเทศไทย

นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เวิร์นส์ ออโดโมทีฟ ประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์โลตัสอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “รู้สึกยินดีที่ได้ทำนำเสนอ Eletre เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการยานยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งการขับขี่ ในชีวิตประจำวันและการเดินทางพักผ่อนในวันหยุด ความสะดวกสบายที่เหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ อินโฟเทนเมนต์ (Infotainment) และการเชื่อมต่อออนไลน์ที่คนยุคใหม่ต้องการ”

เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย ประกาศราคาเริ่มต้นที่ 5,890,000 บาท สำหรับรุ่น Eletre S และ 6,890,000 บาท สำหรับรุ่น Electre R โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า (Pre-order) พร้อมปรับแต่ง (Customize) รถ Eletre ของตนเองได้ตามความต้องการ โดยมีกำหนดเริ่มส่งมอบรถตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นต้นไป

ที่มาข้อมูล Lotus Cars ประเทศไทย