วิจัยชี้ ไวต่อรสขมเชื่อมโยงความเสี่ยง โรคไต-ไบโพลาร์ เพิ่มขึ้น

นักวิจัยออสเตรเลียพบว่ายีนที่ทำให้บางคนไวต่อรสขมเป็นพิเศษ เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคอารมณ์สองขั้วหรือไบโพลาร์ (bipolar) ซึ่งเป็นภาวะป่วยทางจิตที่อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง รวมถึงโรคไตเรื้อรัง
มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์เปิดเผยว่างานวิจัยใหม่นี้เน้นไปที่ยีนทีเอเอส2อาร์38 (TAS2R38) ซึ่งเป็นยีนที่กำหนดว่าบุคคลจะรับรู้รสขมในอาหาร อาทิ บรอกโคลี หรือกะหล่ำดาว ได้เข้มข้นแค่ไหน
โดยราวร้อยละ 70 ของประชากรจะมียีนนี้อย่างน้อยหนึ่งชุด และผู้ที่มียีนสองชุดจะรับรสขมได้มากที่สุด ซึ่ง “ยีนลิ้นไวพิเศษ” นี้อาจวิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อช่วยให้มนุษย์ยุคแรกหลีกเลี่ยงพืชที่มีพิษผ่านการรับรู้จากรสขม
แดเนียล ฮวาง หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุลแห่งมหาวิทยาลัยฯ เปิดเผยว่าทีมวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมเกือบ 5 แสนคนจากยูเค ไบโอแบงก์ (UK Biobank) ฐานข้อมูลชีวการแพทย์ขนาดใหญ่ โดยตรวจสอบทั้งความชอบอาหารและผลลัพธ์ด้านสุขภาพ
และพบว่าผู้ที่มียีนทีเอเอส2อาร์38 มักหลีกเลี่ยงอาหารรสขม อาทิ ฮอร์สแรดิช เกรปฟรุต และแอลกอฮอล์ แต่จะชอบอาหารที่มีรสอ่อนกว่าอย่างแตงกวาและเมลอน และแม้ว่าจะเติมเกลือในอาหารน้อยกว่า แต่ในความเป็นจริงพวกเขากลับบริโภคเกลือโดยรวมมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพไต
การศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารโภชนาการยุโรป (European Journal of Nutrition) ยังพบความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมระหว่างยีนดังกล่าวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคอารมณ์สองขั้ว ซึ่งเป็นภาวะที่อารมณ์แปรปรวนอย่างมากระหว่างช่วงร่าเริงและช่วงซึมเศร้า
ฮวางระบุว่าข้อดีของผู้ที่มียีนนี้คือมีจุลินทรีย์ในลำไส้ที่แข็งแรงกว่า โดยมีแบคทีเรียพาราแบคทีรอยเดส (Parabacteroides) ในระดับที่สูงกว่า ซึ่งเชื่อมโยงกับการลดการอักเสบในลำไส้
ทั้งนี้ ฮวางเสริมว่ายีนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องชัดเจนกับรสชาติและอาหารที่เลือกบริโภค แต่ความเชื่อมโยงกับสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ยังคงต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งอาจนำไปสู่การออกแบบโภชนาการเฉพาะบุคคลในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
