APURE ส่งข้าวโพดแช่แข็ง เปิดตลาดโลกอัพฐานเพิ่ม

#APURE #ทันหุ้น – APURE ปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง-เอเชีย หวังดันยอดขายปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมปี 2567 ได้รับคำสั่งซื้อข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องไม่หยุด คาดรายได้รวมทรงตัวจากปี 2566 ที่ทำได้ 3 พันล้านบาท หนุนจากคำสั่งซื้อช่วงครึ่งปีหลังที่เติบโตโดดเด่น

นายสุเรศพล  จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE เปิดเผยแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2567 (2H/67) มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2567 (1H/67) ที่ผ่านมา หนุนจากคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องจากทั้งทวีปยุโรป และอเมริกาที่เร่งตัวขึ้น สอดคล้องกับจำนวนสต๊อกสินค้าของคู่ค้าที่ทยอยปรับตัวลดลง ประกอบกับช่วงไตรมาส 3/2567 เป็นช่วงไฮซีซันของการส่งออก เบื้องต้นบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถทยอยส่งออกผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องให้กับคู่ค้าจนถึงช่วงกลางไตรมาส 4/2567

ขณะเดียวกันกลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแช่แข็งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการทั้งร้านอาหาร โรงแรม ผู้ผลิตอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทานในภูมิภาคตะวันออกกลาง และญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยเริ่มมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้ของกลุ่มบริษัทให้เติบโตได้ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

*คุมต้นทุนได้ดี

พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทยังสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งต้นทุนแรงงาน ต้นทุนการขนส่ง รวมถึงสามารถบริหารจัดการวัตถุดิบข้าวโพดหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามคาดการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปี 2567 มีแนวโน้ทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 3000 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 387.97 ล้านบาท

“ภาพรวมปีนี้คาดว่าจะทรงตัว หรืออาจเติบโตได้เพียงเล็กน้อย เพราะช่วงต้นปีก็เผชิญปัญหา Dead Stock ตามมาด้วยสถานการณ์ทะเลแดงดันค่าระวางเรือสูงขึ้น และใช้ระยะเวลาขนส่งสินค้านานขึ้น คู่ค้าบางส่วนจึงหาแหล่งสินค้าใหม่ แต่เมื่อสามารถแก้ปัญหาการขนส่งได้ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 1/2567 ประกอบกับเงินบาทที่ทางตัวอ่อนค่า คู่ค้าจึงเริ่มกลับมาสั่งซื้อข้าวโพดหวานมากขึ้น ประกอบกับบริษัทเริ่มมีผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแช่งแข็ง ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังมีผู้ผลิตน้อยรายจึงเริ่มเป็นที่สนใจในตลาดโลก”

*เร่งทำการตลาดเชิงรุก

พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ทั้งการนำผลิตภัณฑ์ไปนำเสนอในงานแฟร์ต่างๆ ทั่วโลกมุ่งเจาะตลาดกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา, ภูมิภาคตะวันออกกลาง, ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศที่การบริโภคภายในประเทศเติบโตในอัตราสูง อาทิ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย เป็นต้น ควบคู่กับการขายผ่านเอเจนซีเพื่อให้สินค้าของกลุ่มบริษัทเป็นที่รู้จักในตลาดโลกอย่างกว้างขวาง

“เมื่อเริ่มเห็นว่าการส่งออกไปยุโรป อเมริกาคงประสบปัญหาต่อเนื่องในระยะยาว จึงปรับกลยุทธ์มุ่งขยายฐานการตลาดไปยังภูมิภาคอื่นมากขึ้นทั้งตะวันออกกลาง และในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีญี่ปุ่น เกาหลีเป็นฐานตลาดข้าวโพดแช่แข็งอยู่แล้ว ปัจจุบันก็เริ่มมีลูกค้าเริ่มขอรับสินค้าไปทดลองปรุงเป็นอาหารมากขึ้น แต่คำสั่งซื้อจะเริ่มจากน้อยๆ เพราะกลุ่มอาหารปรุงสุก และอาหารปรุงสุกกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทานกระบวนการก่อนจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่วางขาย หรือออกไปเป็นเมนูจะซับซ้อนและใช้เวลา แต่เมื่อเริ่มเป็นคู่ค้ากันแล้วจะมีคำสั่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”

*สินค้าใหม่หนุน

ปัจจุบันรายได้ของบริษัทยังคงมาจากผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องมากกว่า 90% โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแช่แข็งขึ้นเป็น 30% ของรายได้รวมภายในระยะ 3 – 5 ปีข้างหน้า (2570-2572) เพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว

“ตลาดข้าวโพดหวานแช่แข็งยังเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจ มีผู้เล่นน้อยรายมาก ดังนั้นเมื่อไปร่วมงานแสดงสินค้าก็จะได้รับความสนใจและเมื่อลูกค้าเป้าหมายนำผลิตภัณฑ์ไปทดลองปรุงออกมาเป็นอาหารก็สนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น จึงสามารถเปิดตลาดใหม่ได้ทั้งข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องและข้าวโพดหวานแช่แข็ง จึงวางแผนการเติบโตไปคู่กันแต่การจะขยายกำลังกาผลิตข้าวโพดหวานแช่แข็งจะค่อนข้างยากกว่าการบรรจุกระป๋อง”