หุ้นยุโรปบวกต่อเนื่อง! แรงหนุนจากการเปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ

#หุ้นยุโรป #ทันหุ้น – สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ตามทิศทางตลาดโลก หลังจากที่การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ สิ้นสุดลง ดัชนี Stoxx 600 ทั่วยุโรปปรับตัวขึ้นเกือบ 0.1% เมื่อเวลา 9:49 น. ตามเวลาลอนดอน (4:49 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก) โดยที่หุ้นในภาคส่วนต่าง ๆ มีการเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน

ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักร และดัชนี DAX ของเยอรมนี อยู่ในแดนลบในวันพฤหัสบดี ลดลง 0.28% และ 0.22% ตามลำดับ ในทางตรงกันข้าม ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.53% และดัชนี FTSE MIB ของอิตาลีเพิ่มขึ้น 0.29% ขณะที่ดัชนี Ibex 35 ของสเปนปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

เมื่อพิจารณาเป็นรายตัว หุ้นกลุ่มยาทำผลงานได้ดีในช่วงชั่วโมงแรกของการซื้อขาย ALK ของเดนมาร์กและ Zealand Pharma เป็นผู้นำในการเพิ่มขึ้น โดยได้กำไร 11% และ 4.48% ตามลำดับ

ALK ได้เพิ่มการคาดการณ์ผลประกอบการเมื่อวันพุธ โดยคาดว่าบริษัทจะเติบโต 13-15% ในสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดิมที่ 12-14% บริษัทกล่าวว่าเห็นการเติบโตในทุกภูมิภาคการขายและทุกสายผลิตภัณฑ์

หุ้นของ Burberry พุ่งขึ้น 7% หลังจากแบรนด์หรู รายงาน ยอดขายสาขาที่เปรียบเทียบกันได้ (comparable store sales) เติบโตเป็นครั้งแรกในรอบสองปี ยอดขายสาขาที่เปรียบเทียบกันได้ในไตรมาสที่สองเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1% ตามการประมาณการของ Reuters การเติบโตได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 3% ในอเมริกาและจีนตามลำดับ ซึ่งส่งสัญญาณว่าความพยายามในการพลิกฟื้นของบริษัทเริ่มให้ผลลัพธ์

ขณะเดียวกัน หุ้น Siemens Healthineers ลดลง 2.5% หลังจากมีรายงานว่า Siemens ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่แยกบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์แห่งนี้ออกมาในปี 2017 จะมอบหุ้น 30% ที่ถืออยู่ในบริษัทลูกให้กับนักลงทุนของตนเอง

หุ้นกลุ่มพลังงานผันผวนเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อรายงานจาก International Energy Agency (IEA) ซึ่งได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์อุปทานน้ำมัน หุ้น Shell และ Equinor ปรับตัวลดลงเล็กน้อย BP ลดลง 1.55% และ ENI ลดลง 0.15% TotalEnergies สวนทาง โดยเพิ่มขึ้น 0.74% รายงานของ IEA ซึ่งบ่งชี้ว่า "จุดสูงสุดของน้ำมัน" (peak oil) อยู่ไกลกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก เกิดขึ้นในขณะที่การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ COP30 กำลังจัดขึ้นในบราซิล

นักลงทุนในยุโรปจะจับตาดูรายงานผลประกอบการจาก Siemens, Deutsche Telekom, Enel, Merck, Aviva และ Alstom เป็นต้น

สำหรับการเปิดเผยข้อมูล เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรมีการเติบโต 0.1% ในไตรมาสที่สาม ตามตัวเลขเบื้องต้นใหม่จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญครั้งสุดท้ายก่อนการประกาศงบประมาณฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Budget)

Sanjay Raja หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสหราชอาณาจักรของ Deutsche Bank กล่าวว่า "เป็นที่ชัดเจนว่าฤดูร้อนปี 2025 ค่อนข้างน่าผิดหวัง" พร้อมเสริมว่าธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งนี้ไม่คาดหวังว่าจะมีการเร่งตัวมากนักในช่วงสิ้นปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น

Raja กล่าวว่า "เราคาดว่าความไม่แน่นอนด้านงบประมาณจะเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน" "และเราคาดว่าการตัดสินใจลงทุนหรือจ้างงานครั้งใหญ่จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงปีใหม่ โดยรวมแล้ว เรายังคงคาดว่า GDP รายปีจะขยายตัว 1.4% ในปี 2025 แต่ความเสี่ยงขาลงต่อการคาดการณ์ปี 2026 ของเรากำลังก่อตัวขึ้นแล้ว"

ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปก็มีกำหนดเปิดเผยในวันพฤหัสบดีเช่นกัน

หุ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น และ ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงข้ามคืน หลังจากที่ประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ ลงนามในร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเป็นการยุติ การปิดทำการของรัฐบาลกลาง ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ อย่างมีผลบังคับใช้

มาตรการดังกล่าว ซึ่งจะให้ทุนสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลจนถึงสิ้นเดือนมกราคม ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 222-209

ที่มา https://www.cnbc.com/2025/11/13/european-markets-on-novpoint13-stoxx-600-ftse-dax-cac.html