รีเซต

คลัง-ธปท.-แบงก์รัฐ ร่วมหนุนแก้ปัญหาหนี้สินระยะยาว เริ่ม 1 ม.ค.65

คลัง-ธปท.-แบงก์รัฐ ร่วมหนุนแก้ปัญหาหนี้สินระยะยาว เริ่ม 1 ม.ค.65
มติชน
24 ธันวาคม 2564 ( 15:33 )
49

ข่าววันนี้ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (GFA) ได้แถลงการณ์ร่วมกันว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) มีบทบาทสำคัญในการให้สินเชื่อแก่ประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือกลุ่มลูกหนี้เป้าหมายตามนโยบายภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง ลูกหนี้ส่วนใหญ่มีฐานะการเงินเปราะบางและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลซ้ำเติมต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้เข้าให้ความช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการชะลอการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้แบบชั่วคราว เช่น การพักชำระหนี้ การขยายระยะเวลา ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาลูกหนี้ที่เสื่อมคุณภาพ ซึ่งเป็นปัญหาระยะยาวที่สะสมมาได้อย่างแท้จริง

 

ด้วยเหตุผลข้างต้น คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงาน เห็นร่วมกันให้ ธปท.กำหนดกรอบดำเนินการและสร้างกลไกผลักดันให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เร่งให้ความช่วยเหลือและปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เป็นการแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ได้อย่างตรงจุดในระยะยาว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ยังต้องเผชิญกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้ลูกหนี้สามารถดำเนินธุรกิจหรือใช้ชีวิตประจำวันต่อไปได้ อันจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม โดยมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยแนวทางและมาตรการดำเนินการในการช่วยเหลือและแก้ไขหนี้ในระยะยาว ดังนี้

 

1.แนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว ที่เป็นการยกระดับแนวนโยบายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจปฏิบัติ เดิมเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อรองรับการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติของการจัดทำนโยบาย การกำกับดูแล และกระบวนการพิจารณาการปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนมีการควบคุมภายในที่รัดกุม ซึ่งจะเอื้อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจสามารถใช้ดุลยพินิจอย่างระมัดระวังและรอบคอบในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่างแท้จริง

 

2.มาตรการสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจเร่งแก้ไขปัญหาหนี้เดิมด้วยการปรับโครงสร้างหนี้แบบระยะยาวอย่างตรงจุดและเหมาะสมกับปัญหาของลูกหนี้แต่ละราย โดยกำหนดงวดการจ่ายชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงมากของลูกหนี้ และให้ลูกหนี้ทยอยจ่ายชำระหนี้เพิ่มขึ้นเมื่อรายได้เริ่มกลับมา รวมทั้งต้องเร่งช่วยลูกหนี้ให้ได้จำนวนมากและรวดเร็ว ซึ่ง ธปท. ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองตามความเข้มข้นของการให้ความช่วยเหลือ โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นการชั่วคราวระหว่าง วันที่ 1 มกราคม 2565-31 ธันวาคม 2566 ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการแก้หนี้ระยะยาว 3 กันยายน 2564 ของธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินการอยู่

 

 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ สถาบันการเงินเฉพาะกิจถือว่ามีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ซึ่งช่วงวิกฤติโรคโควิด-19 ในสองปีที่ผ่านมาสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้ร่วมกันช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้และการให้สินเชื่อเพื่อเติมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ สำหรับปีหน้า จากกรอบหลักเกณฑ์และมาตรการที่ ธปท. ได้กำหนดขึ้น จะเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจได้นำไปปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้ให้กับลูกหนี้อย่างแท้จริงให้สอดคล้องกับรายได้ของลูกหนี้ที่ลดลง ซึ่งการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระยะยาวนี้ นอกจากจะช่วยให้ลูกหนี้สามารถก้าวพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ยังก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจและเน้นย้ำบทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในการเป็นสถาบันการเงินเพื่อประชาชน

 

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า แนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และมาตรการแก้ไขหนี้เดิมข้างต้น มีวัตถุประสงค์ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีความมั่นใจและเร่งดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้อย่างแท้จริง สอดคล้องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นและสถานการณ์ที่ยืดเยื้อ เพื่อให้ลูกหนี้ที่ยังได้รับผลกระทบหนักสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้ ซึ่งมาตรการนี้ จะทำให้การช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีความครอบคลุมและเข้าถึงลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับความเดือดร้อนได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ธปท. จะร่วมกับกระทรวงการคลัง และ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ในการเร่งรัดและติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด

 

นายฉัตรชัย ศิริไล ประธานสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามกรอบมาตรการของ ธปท. และตามแนวทางการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการของแต่ละสถาบันการเงินเฉพาะกิจมาเป็นระยะ ซึ่งสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้เป็นจำนวนมาก โดยมาตรการต่างๆ จะสิ้นสุดระยะเวลาในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นี้เป็นส่วนใหญ่ สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามประกาศ ธปท. ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2565 นี้ นอกจากการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางในการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 7 แห่ง ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางดังกล่าวให้สอดคล้องกับคุณลักษณะลูกหนี้ ของแต่ละสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดูแลลูกหนี้ให้สามารถดำเนินธุรกิจหรือใช้ชีวิตประจำวันต่อไปได้ตามศักยภาพอันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมด้วย

 

กระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ มุ่งหวังว่ามาตรการของ ธปท.ดังกล่าวจะทำให้ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้รับความช่วยเหลืออย่างตรงจุด ทันการณ์ และเกิดผลจริงในระยะยาว สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์และผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ดังนั้น ลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือหรือแก้ไขหนี้เดิม สามารถติดต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ที่ใช้บริการอยู่เพื่อขอรับความช่วยเหลือได้แล้ว และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ท่านใช้บริการ หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร 1213

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง