ศบค. เผยยอดติดเชื้อโควิดต่ำกว่าสิบเป็นวันที่ 2 แต่ย้ำ"ชีวิตวิถีใหม่" ยังจำเป็น

โฆษก สคบ. แถลงผู้ป่วยไทยต่ำสิบเป็นวันที่สองต่อเนื่อง หลังพบผู้ป่วยใหม่ 7 ราย ย้ำ"ชีวิตวิถีใหม่" ที่ประชาชนต้องปฏิบัติ

จากการแถลงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันนี้ (28 เม.ย.) พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยต่ำสิบเป็นวันที่สอง โดยมีการติดเชื้อใหม่ 7 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,938 ราย และมีผู้ที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 232 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย 54 คน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่าวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย ซึ่งเป็นการคงตัวเลขต่ำสุดเป็นวันที่สองต่อเนื่อง โดยกลุ่มอายุ 20-29 ยังคงมีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเช่นเดิม พร้อมย้ำแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการรัฐ แต่ประชาชนต้องมี "ชีวิตวิถีใหม่" นั้นคือการสวมหน้ากากอนามัยให้เป็นปกติต่อไป

• เหตุใดเอกวาดอร์จึงเผชิญวิกฤตไวรัสโคโรนารุนแรงที่สุดในลาตินอเมริกา
• พยาบาลชายแดนใต้ผู้ไม่ย่อท้อกับภารกิจปราบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
• ที่มา อาการ การรักษา และการป้องกันโรคโควิด-19
• แผนที่ อินโฟกราฟิก ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก

"อยากได้อย่างไรก็ต้องลงทุนชีวิตที่ต้องปรับสมดุลใหม่ วิถีใหม่ ให้มันพอ ๆ กัน เพื่อให้เราสามารถควบคุมและป้องกันโรคได้"นพ.ทวีศิลป์กล่าว

สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมวันนี้นั้น รายที่ 53 นั้นเป็นผู้ป่วยชาวไทย อายุ 52 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันจากการไปสัมมนา ก่อนที่จะมีอาการไข้ ปวดเมื่อย เข้ารักษาได้รับการตรวจยืนยันติดเชื้อ ระหว่างการรักษามีอาการไข้ และท้องเสีย แต่อาการไม่ดีขึ้นมีภาวะปอดรั่ว และไตวายเฉียบพลัน ก่อนเสียชีวิต

ส่วนรายที่ 54 นั้น เป็นผู้ป่วยหญิงชาวไทย อายุ 63 ปี อาชีพค้าขาย มีภาวะอ้วน โดยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า คือสามี และหลานสาว ก่อนจะเริ่มป่วยด้วยอาการไข้ มึนศีรษะ และเข้ารับการรักษาที่รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ยืนยันพบการติดเชื้อ ก่อนที่อาการแย่ลงจนเกิดภาวะปอดอักเสบติดเชื้อ และการหายใจล้มเหลว

"สิ่งที่เราเห็นคือมีประวัติยืนยันสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันก่อนหน้านี้ทั้งคู่ เราต้องให้ความสำคัญกับการมี Social Distance การรักษาระยะห่าง แม้คนในครอบครัวของเราเอง พยายามทำให้เป็นชีวิตวิถีใหม่" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

รายละเอียดผู้ป่วยใหม่ 7 คน นั้นจำแนกดังนี้

• สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 5 คน ใน จ.ภูเก็ต กรุงเทพฯ และนครราชสีมา
• ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 คน
• อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 1 คน

ถอดบทเรียนผู้ป่วยสูงอายุ

ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้น นพ.ทวีศิลป์ ชี้ว่านับตั้งแต่ ม.ค.- 26 เม.ย. พบผู้ป่วยในช่วงอายุนี้ 328 ราย คิดเป็น 11 % ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยในนี้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย ซึ่งเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และช่วงอายุ 60-69 ปีพบการป่วยมากสุด 66% รองลงมา 70-79 ปี ,80-89 ปี ,90-99 ปี ตามลำดับ

โดยปัจจัยการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 24% ใกล้เคียงกับเหตุการณ์สนามมวย รวมถึงการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า การเดินทางจากต่างประเทศ รวมถึงการไปในพื้นที่เสี่ยง

นพ.ทวีศิลป์ อธิบายว่า 3 จังหวัดที่พบมากที่สุด คือ ยะลา ซึ่งมาจากกรณีการประกอบพิธีทางศาสนา เช่นเดียวกับในจ.ยะลา และในจ.ภูเก็ต โดยสถานการณ์ทั่วโลกวันนี้มีผู้ป่วยสะสมแตะ 3 ล้านคน หลังมีผู้ป่วยสะสมกว่า 3,065,374 และเสียชีวิต 211,606 ราย ในเอเชียนั้นยังคงต้องติดตาม

ในวันนี้จะมีคนไทยที่ตกค้างเดินทางกลับจากต่างประเทศ ใน 3 เที่ยวบิน คือ จากสเปน 12 คน และอินเดีย 189 คน ก่อนที่วันพรุ่งนี้ (29 เม.ย) จะมีอีก 1 เที่ยวบิน คือ จากอินเดีย 189 คน รวมแล้วนับตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. มีผู้เดินทางกลับผ่านด่านทางอากาศแล้วใน 21 ประเทศ จำนวน 2,769 คน

ส่วนด่านทางบกนั้นข้อมูลวันนี้มีผู้ลงทะเบียนขอเดินทางกลับเพิ่มเติม ทั้งจากเมียนมา มาเลเซีย ลาว และกัมพูชา ซึ่งทั้งหมดจะเข้าสู่การดูแลในพื้นที่ที่รัฐจัดให้

กรณีผู้ป่วยที่ลดลงในกรุงเทพฯ นั้น นพ.ทวีศิลป์กล่าวชื่นชมความร่วมมือของประชาชน แต่ยังคงย้ำว่า "วางใจได้ เบาใจไม่ได้" แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ไม่พบผู้ป่วย แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ติดเชื้อเลย แต่จำเป็นต้องหาผู้มีเสี่ยงเข้ามารับการตรวจเพิ่มขึ้น ดังนั้นการจะใช้ชีวิตเหมือนปกติยังคงไม่สามารถทำได้ในช่วงใกล้ ๆ นี้ ยังคงต้องใช้มาตรการดูแลอย่างเคร่งครัด