รีเซต

'อมาโด้' พลิกเกมสู้โควิด รุกตลาดออนไลน์-เทเลเซลล์ หวังกวาดรายได้ 1,200 ลบ.

'อมาโด้' พลิกเกมสู้โควิด รุกตลาดออนไลน์-เทเลเซลล์ หวังกวาดรายได้ 1,200 ลบ.
มติชน
24 เมษายน 2563 ( 00:25 )
71

นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่าย(ปลีก) ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและอาหารเสริมชั้นนำ จำกัด เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ทางบริษัทเพิ่มความรัดกุมในการขนส่งสินค้า ฆ่าเชื้อคลังสินค้าแม้จะยังไม่มีบุคคลกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ รวมถึงการดูแลความสะอาดของพนักงานที่มีหน้าที่แพ็กสินค้า และบริหารงานในส่วนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้ขานรับมาตรการรัฐด้วยการแบ่งทีมทำงานจากที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) สลับกับทีมทำงานในออฟฟิศ เพื่อให้สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพและปลอดภัย โดยบริษัทมีเป้าหมายดูแลพนักงานจำนวนกว่า 170 คน ให้ก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน

นายธนา กล่าวว่า จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ขณะนี้ บูทจำหน่ายสินค้าของอมาโด้กว่า 40 แห่งในห้างสรรพสินค้าต้องปิดตามคำสั่งประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 อย่างไรก็ดี อมาโด้มีการเตรียมแผนรับมือวิกฤตดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่ทราบข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยประเมินสถานการณ์ควบคู่ไปกับการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับสถานการณ์ โดยเน้นการขายออนไลน์มากขึ้น พร้อมเน้นการขายสินค้าผ่านเทเลเซลล์ โดยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าของบริษัท มีการนำสินค้าพร้อมโปรโมชันเข้าร่วมโปรโมทในรายการโทรทัศน์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ อมาโด้ ไฮ-ทัช แอลกอฮอล์ สเปรย์ และอมาโด้ ไฮ-ทัช แอลกอฮอล์เจล ในไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงผิว ในราคาที่สมเหตุสมผล ให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในยุคที่สินค้ากลุ่มดังกล่าวมีราคาสูงเกินความเป็นจริงและขาดแคลนในตลาด

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายตลาดสู่ตลาดมวลชนมากขึ้น โดยการเปิดช่องทางการจำหน่ายใหม่ผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น กว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ ด้วยบรรจุภัณฑ์ซองคอลลิจิ คอลลาเจน ซาเช่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขนาดพิเศษที่ตอบความต้องการกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะ ทั้งนี้ จะเริ่มกระจายและวางจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

“ในปี 2563 บริษัท ตั้งเป้ารายได้ 1,200 ล้านบาท จากการปรับแผนการดำเนินงานเพื่อรับมือและลดผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมผลประกอบการในเดือนมกราคม-มีนาคม ที่ผ่านมา มีรายได้ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งยอดขายผ่านเทเลเซลล์ หรือการขายสินค้าผ่านรายการโทรทัศน์ที่ลูกค้าจะโทรเข้ามาเพื่อสั่งซื้อสินค้า เพิ่มขึ้นเป็น 33% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเป็นเพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพของตัวเองเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ” นายธนา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง