การบินไทย ประกาศ "หยุด-เลื่อน" จ่ายเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน 6 ด. เซฟสภาพคล่อง
การบินไทย ประกาศ หยุด-เลื่อน จ่ายเงินสมทบ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 6 ด. เซฟเงินเสริมสภาพคล่อง เตรียมผ่อนคืนกองทุน ภายใน 1 ปี
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการฝ่าบริหารงานนโยบาย และคณะกรรมการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมี นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานกองทุนฯ ได้มีการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบและลดค่าใช้จ่ายของ บริษัทฯ โดยอาศัยอำนาจตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการกำหนดประเภทธุรกิจ ระยะเวลา และเงื่อนไขให้ลูกจ้าง หรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสม หรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในท้องที่ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สาธารณะภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2564 โดยที่ประชุมมีมติดังนี้
ในส่วนของบริษัทฯได้มีมติ เลื่อน การส่งมอบเงินสมทบเข้า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. 2564 โดยจะเริ่มจ่ายคืนเงินสมทบที่เลื่อนไว้ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564-มิ.ย. 2565 เป็นระยะเวลา 12 เดือน และจะทำการ หยุด การส่งเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ เป็นระยะเวลา 3เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. 2564 โดยจะเริ่มจ่ายคืนเงินสมทบตามปกติ ตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 เป็นต้นไป
สำหรับส่วนของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯนั้น บริษัทฯ เปิดโอกาสให้ทำการเลือก หยุดส่งเงินสะสมเป็นการชั่วคราวได้ ตั้งแต่เดือน ก.พ.-มิ.ย. 2564 โดยการเลือกหยุดส่งเงินสะสมของสมาชิกฯ สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2564 เป็นต้นไปและต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ของเดือนที่ประสงค์จะหยุดส่งเงิน โดยในเดือนม.ค. จะต้องจ่ายเงินสมทบให้อัตราสุดท้ายก่อนการเลือกเป็น 0% ส่วนสมาชิกฯ ที่ไม่ได้เลือกที่จะหยุดส่งเงินสะสม จะจ่ายเงินสะสมในอัตราที่แสดงความจำนงไว้ล่าสุด
อย่างไรก็ตาม การประกาศหยุดและเลื่อนการจ่ายเงินสำรองเลี้ยงชีพฯ ของบริษัทการบินไทยในครั้งนี้เป็นการดำเนินการ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อรายได้และการดำเนินงานของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยการลดหรือเลื่อนส่งเงินสมทบ ยังเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทมีเงินสดในมือ เพื่อใช้ในการดำเนินการมากขึ้นในภาวะที่บริษัทฯอยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการ โดยก่อนหน้านี้ นายชาญศิลป์ ออกระบุว่าปัจจุบันบริษัทมีเงินสดเหลือไว้ใช้ในการดำเนินงานถึงแค่ช่วงเดือน เม.ย. – พ.ค. 2564 เท่านั้น