ไอเดียรีไซเคิลเศษอาหาร กลายเป็นคอนกรีตแข็งแรง แต่กินได้!
นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว (Institute of Industrial Science, University of Tokyo) ได้พัฒนาวิธีการรีไซเคิลเศษอาหาร ให้กลายเป็นวัสดุก่อสร้างที่แข็งแรงกว่าคอนกรีต แต่พิเศษสุด ๆ ตรงที่มันยังคงกินได้แถมยังอร่อยอีกด้วย!
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ทั่วโลกนั้นประสบปัญหาการทิ้งขยะอาหารมากกว่า 1.3 พันล้านตันต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราขาดประสิทธิภาพในการจัดการระบบห่างโซ่อาหาร นอกจากนี้ยังมาจากการทิ้งเศษอาหารและของเหลือที่ถูกทิ้งไปอย่างเสียเปล่าอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการรีไซเคิลเศษอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปัจจุบันนั้นเรามีอุตสาหกรรมมากมายที่หันมาสนใจเรื่องการสร้างระบบหมุนเวียนให้แก่อาหาร เช่น การนำไปใช้เพื่อการเกษตรต่อแทนการเหลือทิ้ง นำไปทำปุ๋ยหมัก หรือการเปลี่ยนขยะจากร้านอาหารให้เป็นกากอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนขยะชีวภาพให้เป็นเชื้อเพลิงหรือพลาสติกอีกด้วย
แต่ล่าสุด ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกียวโตกำลังจะก้าวไปอีกขั้น โดยการเปลี่ยนเศษอาหารเช่นผักและผลไม้ ให้กลายเป็นของที่มีประโยชน์ แต่ยังสามารถกินได้ โดยแนวคิดพื้นฐานของงานวิจัยชิ้นนี้ก็คือการนำเอาเศษวัสดุทั่วไปมาผสมกับสาหร่ายทะเลแล้วแปรรูปเพื่อผลิตวัสดุที่แข็งแรงกว่าคอนกรีต แต่ยังคงรสชาติเหมือนวัสดุดั้งเดิมอยู่
วิธีการที่นักวิจัยใช้นั้น พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างวัสดุสำหรับก่อสร้างจากผงไม้ (Powder Wood) โดยใช้เศษอาหารเช่น สาหร่าย ใบกะหล่ำปลี ส้ม หัวหอม ฟักทอง และเปลือกกล้วย นำมาทำให้แห้งด้วยสุญญากาศแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำผงมาผสมกับน้ำและเครื่องปรุงแล้วกดในแม่พิมพ์ที่อุณหภูมิสูง
ผลลัพธ์ที่ได้คือวัสดุหลายประเภท ซึ่งบางชนิดมีกำลังดัด (Bending Strength) สูงกว่าคอนกรีตด้วยซ้ำ แต่ยังคงกินได้และยังคงรสชาติไว้ดังเดิม นอกจากนี้ยังต้านการเกิดราและการเน่าสลายได้ประมาณ 4 เดือน นอกจากนี้จากการทดสอบด้วยการใส่น้ำตาลและเกลือเพิ่มขึ้นไป ก็ไม่ส่งผลต่อความแข็งแรงของวัสดุ แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ จะยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองในตอนนี้ ซึ่งจากเท่าที่มีการทดสอบพบว่าใบกะหล่ำปลีจีนทำให้วัสดุสามารถรับแรงได้มากกว่าคอนกรีตถึงสามเท่า
หากงานวิจัยชิ้นนี้สำเร็จ ก็อาจจะได้วัสดุใหม่ที่แข็งแรงกว่าคอนกรีตมากขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การพัฒนาเพื่อเกิดเป็นวัสดุอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากจะช่วยลดปัญหาขยะอาหารแล้ว ยังเป็นไอเดียที่ดีในการสร้างกระบวนการหมุนเวียนของอาหารและวัสดุอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก