แท็กซี่คู่กรณีลูกหมอสุนิล แจงเหตุคิดค่าโดยสาร 600 บาท ยันไม่ได้ขู่เข็ญ ปมเรียกรถผ่านแอพพ์

จากกรณีที่ นายเฆวินทร์ พล ลูกชายหมอสุนิล หรือ ดร.สุนิล พล เจ้าของคลินิกดัง โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะปะทะกับแท็กซี่ เนื่องจากโทรเรียก GRAB & Bolt ให้มารับที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในภูเก็ต ในราคา 168 บาท ทว่า GRAB & Bolt ไม่กล้าเข้ามารับ เพราะไม่อยากมีปัญหากับแท็กซี่ที่คุมคิวอยู่หน้าร้าน จึงตัดสินใจถามราคาแท็กซี่หน้าร้าน ปรากฏว่าคิดราคา 800 บาท ก่อนต่อรองเหลือ 600 บาท ต่อมาได้เปิดใจทางไลฟ์ Phuket Times ภูเก็ตไทม์ ยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปเพื่ออยากให้คนเดินทางมาเที่ยว จ.ภูเก็ต สามารถเรียกใช้บริการรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นได้ ไม่ได้ต้องการสร้างกระแสแต่อย่างใด

ขณะที่ พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ระบุว่า พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เรียกตัวนายเจษฎา (สงวนนามสกุล) คนขับรถคู่กรณีเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายจตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงดังนี้ 1.ค่าโดยสาร taxi แนะนำตามประกาศจังหวัดภูเก็ตจากกมลาไปป่าตองกำหนดไว้ 400 บาท (นั่งได้ 4 คน) สามารถต่อรองราคาได้ 2.กรณีการพิพาทข่มขู่ผู้โพสต์ และห้ามมิให้รถอื่นเข้ามารับผู้โดยสาร ผู้โพสต์ได้แจ้งความ สภ.กมลา ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ตามคดีอาญาที่ 30/2656 และจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามอำนาจหน้าที่

นายจตุรงค์กล่าวว่า 3.สขจ.ภูเก็ต จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารเรียกใช้รถแท็กซี่ผ่านแอพพ์ Hello phuket service ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ขบ.แล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเก็บค่าโดยสาร และ ป้องกันการเอาเปรียบผู้โดยสารต่อไป

ด้านนายเจษฎา คนขับแท็กซี่คู่กรณี พร้อมด้วยภรรยา ได้เข้าพบ พ.ต.ท.สมนึก ดำแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กมลา รับทราบข้อกล่าวหาที่นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตามคดีอาญาที่ 30/2656 กรณีที่มีการโต้เถียงกันจนกลายเป็นการข่มขู่ และทำให้เกิดการกลัวเกรง

นายเจษฎาเล่าว่า ในวันเกิดเหตุหลังจากร้านอาหารปิดให้บริการ คู่กรณีได้เดินผ่านกลุ่มของแท็กซี่ที่มารองรับลูกค้าอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งน้องแท็กซี่ได้มีการสอบถามเขา แต่ไม่มีการตอบอะไร และเห็นเขาเดินไปคุยกับผู้ให้บริการรถตุ๊กตุ๊กที่มาจอดรอรับผู้โดยสารเช่นกัน ซึ่งไม่ทราบว่าคุยอะไรกัน จากนั้นเดินกลับมายังเพื่อนร่วมงานของตนคนหนึ่งและถามว่าไปโรงแรมในซอยนาใน ป่าตอง ราคาเท่าไหร่ เพื่อนตนตอบว่า 600 บาท และตนได้เดินเข้าไปเนื่องจากเป็นคิวของตนในการออกให้บริการตามที่มีการตกลงกันในกลุ่ม

นายเจษฎากล่าวว่า คำแรกที่เขาพูดกลับมาคือ “คุณโกง” แทนที่จะมีการต่อรองว่าราคาแพงไป ขอลดลงหน่อยได้หรือเปล่า จึงถามกลับไปว่าโกงอย่างไร เขาตอบกลับมาว่าในแอพพลิเคชั่น Bolt ราคาแค่ 160 บาท ตนจึงได้ชี้แจงไปว่ารถของตนเป็นโลคัลแท็กซี่ ซึ่งราคานี้ให้บริการมาตั้งแต่ร้านอาหารเปิด และอาจจะมีเพิ่มตามระยะทาง หรือจำนวนผู้โดยสาร จะบอกว่าไปป่าตองราคา 500 บาทตายตัวคงไม่ใช่ แต่บางครั้งจำนวนผู้โดยสาร 5-6 คน ราคาก็ขยับขึ้นไปตามความเหมาะสม โดยราคากลางจะอยู่ 500 บาท

นายเจษฎากล่าวอีกว่า กรณีของผู้เสียหายที่แจ้งไปว่า 600 บาท เนื่องจากระยะทางจะเข้าไปในซอยบ้านนาใน ซึ่งเลยจากตัวเมืองป่าตองไปอีกพอสมควร ประกอบกับเป็นช่วงดึกด้วย แต่เขาก็ยืนยันคำเดิมว่าตนโกง ซึ่งตนบอกว่าหากต้องการจะไปรถที่ติดต่อผ่านแอพพ์ก็ไป ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ หรือว่าอะไรมากมาย