โควิดเกินหมื่นราย 9 วัน เผยชื่อ 46 จังหวัด ติดเชื้อเกิน 100 กทม.ดับสูง 10 ศพ
โควิดไทยเกินหมื่นรายเป็นวันที่ 9 ดับ 24 ราย ปอดอักเสบเพิ่ม 641 ราย 46 จังหวัดติดโควิดเกินร้อยราย กทม.ยังติดสูง 2.9 พันราย ดับสูง 10 ราย
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.65 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 9 นับจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นมา คือ 15,882 ราย สะสม 2,593,327 ราย หายป่วย 9,482 ราย สะสม 2,446,022 ราย เสียชีวิต 24 ราย สะสม 22,436 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 124,869 ราย มีอาการหนัก 641 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 126 ราย
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 25 ราย มาจาก 13 จังหวัด ได้แก่ กทม.สูงสุด 10 ราย, ภูเก็ต ชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ นครปฐม สมุทรปราการ นครราชสีมา เลย ศรีสะเกษ อุดรธานี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช นครนายก และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 11 ราย อายุ 49-99 ปี เฉลี่ย 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 92%
ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 2,920 ราย 2.สมุทรปราการ 948 ราย 3.นนทบุรี 826 ราย 4.ชลบุรี 714 ราย 5.ภูเก็ต 462 ราย 6.นครปฐม 394 ราย 7.นครราชสีมา 384 ราย 8.ราชบุรี 376 ราย 9.นครศรีธรรมราช 375 ราย และ 10.ปทุมธานี 338 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไป ยังมีอีก 36 จังหวัด คือ สมุรสาคร 327 ราย, บุรีรัมย์ 297 ราย, ขอนแก่น 260 ราย, ระยอง 252 ราย, สระบุรี 242 ราย, กาญจนบุรี 239 ราย, เชียงใหม่ 226 ราย, ฉะเชิงเทรา 221 ราย, หนองบัวลำภู 213 ราย, ร้อยเอ็ด 210 ราย, มหาสารคาม 205 ราย,
สุรินทร์ 185 ราย, ชัยภูมิ 184 ราย, สุพรรณบุรี 183 ราย, เพชรบุรี 175 ราย, อุบลราชธานี 173 ราย, ปราจีนบุรี 162 ราย, สุราษฎร์ธานี 161 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 155 ราย, ลพบุรี 148 ราย, พิษณุโลก 147 ราย,
กาฬสินธุ์ 141 ราย, พังงา 141 ราย, สกลนคร 139 ราย, พระนครศรีอยุธยา 138 ราย, ศรีสะเกษ 136 ราย, อุดรธานี 136 ราย, พัทลุง 134 ราย, หนองคาย 122 ราย, นครสวรรค์ 120 ราย , จันทบุรี 117 ราย, ชุมพร 115 ราย, อุตรดิตถ์ 112 ราย, สงขลา 108 ราย, กำแพงเพชร 104 ราย และชัยนาท 102 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วย 1 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน 8 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 87 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 200 ราย ใน 36 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 70 ราย, เยอรมนี 16 ราย, อิสราเอล 10 ราย, เมียนมา 9 ราย, ฝรั่งเศส อังกฤษ ประเทศละ 8 ราย, ยูเครน ศรีลังกา เดนมาร์ก ประเทศละ 7 ราย, คาซัคสถาน 6 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 64 ราย แซนด์บ็อกซ์ 129 ราย ระบบกักตัว 5 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 2 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-12 ก.พ. 2565 จำนวน 71,215 ราย รายงานติดเชื้อ 2,175 ราย คิดเป็น 3.05% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 33,811 ราย ติดเชื้อ 265 ราย คิดเป็น 0.78% แซนด์บ็อกซ์ 31,721 ราย ติดเชื้อ 1,754 ราย คิดเป็น 5.53% และกักตัว 5,683 ราย ติดเชื้อ 156 ราย คิดเป็น 2.75%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 12 ก.พ. ฉีดได้ 270,440 โดส สะสมรวม 119,733,753 โดส เป็นเข็มแรก 52,774,125 ราย คิดเป็น 75.9% ของประชากร เข็มสอง 49,217,402 ราย คิดเป็น 70.8% ของประชากร และเข็มสาม 17,742,226 ราย คิดเป็น 25.5% ของประชากร