นายกฯ ออสเตรเลียวอนประชาชนเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19

แคนเบอร์รา, 13 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (12 ก.ย.) สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เรียกร้องทั้งประเทศเดินหน้าต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะต่อสู้กับการระบาดระลอก 3

แผนการของมอร์ริสันระบุว่าออสเตรเลียจะเริ่มเปิดประเทศอย่างเป็นระยะอีกครั้ง หากประชากรวัยผู้ใหญ่ร้อยละ 70 ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว โดยมอร์ริสันกระตุ้นทุกคนที่อายุ 12 ปีขึ้นไป รวมถึงเด็กอายุ 12-15 ปี เข้ารับวัคซีนในช่วงไม่กี่สัปดาห์และเดือนนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในแผนการระดับชาติ

ช่วงเช้าวันจันทร์ (13 ก.ย.) ออสเตรเลียรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 1,745 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวทั่วประเทศสูงเกิน 19,000 ราย

นิวเซาธ์เวลส์ (NSW) ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดและมีซิดนีย์เป็นเมืองหลวง ตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 1,257 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 7 ราย ขณะที่วิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 และมีเมลเบิร์นเป็นเมืองหลวง ตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 473 ราย ส่วนเขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในประเทศ ตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 13 ราย

อย่างไรก็ดี ออสเตรเลียยังไม่ประกาศแน่ชัดว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่เริ่มบังคับใช้ในกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. จะสิ้นสุดตามกำหนดเดิมในวันศุกร์ (17 ก.ย.) นี้หรือไม่

ด้านกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียระบุว่าชาวออสเตรเลียที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปราวร้อยละ 67 ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส ขณะอีกร้อยละ 42 ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (12 ก.ย.) ที่ผ่านมา