"กัญชา-กัญชง" ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
ภายหลังที่ประเทศไทยได้ปลดล็อก "กัญชา" พ้นจากยาเสพติดไป เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ทาง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้โพสต์ข้อความ แจ้งเตือนคนไทย ห้ามนำเข้า กัญชา-กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น หากฝ่าฝืน มีโทษตามกฎหมาย ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ให้ระวัง การรับฝากสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นด้วย
สำหรับโทษที่จะได้รับหากฝ่าฝืนตามกฎหมายญี่ปุ่น ดังนี้ มีไว้ในครอบครองเพื่อนำเข้าและส่งออก มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 3 ล้านเยน
ก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยในอินโดนีเซีย ได้โพสต์ข้อความว่า "สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอแจ้งเตือนคนไทยมิให้นำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศอินโดนีเซีย หากฝ่าฝืน มีโทษตามกฎหมายอินโดนีเซียปรับขั้นต่ำ 1 พันล้านรูเปียห์ จำคุก 5 ปี-ตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต อนึ่ง ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการรับฝากสิ่งของจากผู้อื่นมายังประเทศอินโดนีเซียด้วย"
ขณะที่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ได้แจ้งเตือนคนไทย ห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ กัญชา กัญชง เข้ามาในเวียดนาม หากตรวจพบการกระทำผิดกฎหมาย จะมีโทษปรับเป็นเงิน 5,000,000 - 500,000,000 เวียดนามด่ง และจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต
ด้าน สถานทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ การประกอบธุรกิจและการใช้กัญชาของชาวจีนในประเทศไทย อาทิ ปัจจุบันยังไม่มีกฎระเบียบชัดเจนว่า ชาวต่างชาติจะสามารถขอจดแจ้งปลูกกัญชาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยังควบคุมอุตสาหกรรมกัญชาอย่างเข้มงวด โดยการใช้กัญชาจะต้องเป็นไปเพื่อเหตุผลทางการแพทย์และสุขภาพ มากกว่าเพื่อความบันเทิง
นอกจากนี้ การนำเข้า เพาะปลูก ผลิตและขายกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตยังเป็นการระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการผลิตและขายผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีสาร THC เกิน ร้อยละ 0.2 เป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกและปรับ หรือ ทั้ง 2 อย่าง
ทั้งนี้ การสูบกัญชาขณะพำนักในประเทศไทย และถูกตรวจพบเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศจีน จะมีผลเท่ากับการใช้กัญชาในประเทศจีน และจะถูกลงโทษตามกฎหมาย ขณะเดียวกันสาร THC ถูกจัดเป็นยาเสพติดเช่นกัน ดังนั้น การนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC จึงผิดกฎหมายด้วย.
ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP