รีเซต

วงเสนาสรุปพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ รอประกาศใช้

วงเสนาสรุปพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ รอประกาศใช้
TNN ช่อง16
15 สิงหาคม 2568 ( 17:16 )
16

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับมูลนิธิชีววิถี จัดเวทีเสวนา “ถอดบทเรียน แก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากแตกต่างสุดขั้วสู่จุดร่วม สร้างสมดุล” โดย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ระบุว่า พ.ร.บ.เดิมใช้มากว่า 17 ปี แม้มีประสิทธิภาพแต่ยังมีปัญหาหลายด้าน จึงต้องร่างใหม่ ซึ่งผ่านการพิจารณาทั้ง ส.ส. และ ส.ว. แล้ว การพิจารณาแต่ละขั้นมีความท้าทายเพราะแต่ละฝ่ายมีมุมมองต่างกัน จึงได้เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องและลงพื้นที่ศึกษาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงจีนที่มีมาตรการจัดการปัญหาสุราเข้มงวด พร้อมเยี่ยมผู้ป่วยติดสุราและรับฟังผู้ประกอบการรายย่อย ส่งผลให้เกิดความเข้าใจร่วมและการหาจุดสมดุลจนพิจารณากฎหมายได้ราบรื่น

นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ร่างใหม่ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ เพิ่มตัวแทนกระทรวง ภาคเอกชน และผู้แทนสภาเด็กและเยาวชน โดยมีอำนาจออกกฎหมาย และผ่องถ่ายอำนาจบางส่วนให้คณะกรรมการระดับจังหวัดและ กทม. แม้ยกเลิกประกาศคณะปฏิวัติที่กำหนดเวลาห้ามขาย แต่ยังคงอนุบัญญัติกำหนดเวลาเดิมตามมติคณะกรรมการ ส่วนการขายผ่านตู้อัตโนมัติจะต้องยืนยันตัวตนผู้ซื้อและไม่ตั้งในสถานที่ต้องห้าม เช่น วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ หรือปั๊มน้ำมัน อีกทั้งต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต


กฎหมายใหม่เพิ่มโทษผู้ขายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือผู้มึนเมา โดยปรับสูงสุด 100,000 บาท และให้ผู้ขายต้องรับผิดชอบหากผู้ซื้อก่อเหตุหลังดื่ม พร้อมสิทธิเรียกตรวจบัตรประชาชน ข้อห้ามโฆษณายังคงอยู่แต่เปิดช่องให้สื่อสารได้บางส่วนภายใต้กฎหมายลูก และห้ามใช้ตราเสมือนเลี่ยงโฆษณา กฎหมายผ่านวุฒิสภาแล้ว รอทูลเกล้าฯ และมีผลใช้บังคับ 60 วันหลังประกาศราชกิจจานุเบกษา

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร กรรมาธิการฯ พรรคประชาชน ชี้ว่าร่างกฎหมายหลายฉบับที่แตกต่างกันได้ถูกกลั่นกรองจนกลมกล่อม ผ่านการพูดคุยในรัฐสภาจนฝ่ายรณรงค์และผู้ประกอบการเข้าใจกันมากขึ้น แม้สาระหลักยังไม่สมบูรณ์ตามที่ทุกฝ่ายต้องการ แต่กฎหมายชัดเจนขึ้น เช่น การแก้ให้ผู้โพสต์ภาพสุราโดยไม่มีเจตนาโฆษณาหรือไม่ใช่ influencer ไม่เป็นความผิด

ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย กรรมาธิการฯ นักวิชาการผู้เสนอร่างฯ ระบุว่าจะจัดเสวนาชี้แจงสาระสำคัญเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องรออนุบัญญัติ พร้อมชี้ว่ากฎหมายใหม่นี้ช่วยให้สังคมแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องแอลกอฮอล์ได้อย่างเปิดเผย ลดปัญหาการถูกดำเนินคดีไม่เป็นธรรมเหมือนช่วงโควิดที่ผู้ประกอบการและประชาชนถูกปรับจำนวนมากจากการโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์



นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว และกรรมาธิการฯ กล่าวถึงการผลักดันกฎหมายตั้งแต่ปี 2548 จนสำเร็จปี 2551 และต่อมามีข้อห้ามหลายประการรวมถึงการขายออนไลน์ที่ถูกคัดค้านหนัก ช่วงโควิดมีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 32 จำนวนมากจึงเกิดการผลักดันแก้ไขครั้งนี้ พร้อมชื่นชมบทบาทประธาน กมธ. ที่เปิดให้ถกกันอย่างเต็มที่จนคลี่คลายความไม่ไว้วางใจ ผ่านการลงพื้นที่และรับฟังข้อมูลรอบด้าน

รศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์คณะสังคมวิทยาฯ ผู้ดำเนินการอภิปราย กล่าวว่ากระบวนการพิจารณาร่างนี้สะท้อนประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ เพราะรัฐสภาเปิดให้ผู้มีมุมมองต่างกันได้แลกเปลี่ยนจนหาทางออกที่คุ้มครองผู้บริโภค ส่งเสริมผู้ประกอบการ และดูแลความปลอดภัยสังคม พร้อมชี้ว่าวิธีนี้สามารถนำไปใช้กับปัญหาอื่นของประเทศได้เพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง