รัฐมิชิแกนสร้างทางหลวงอัจฉริยะรองรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (CAV) สายแรกในสหรัฐฯ
บริษัท คาฟนู (Cavnue) สตาร์ตอัปในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา กำลังก่อสร้างทางหลวงอัจฉริยะสาย I-94 สำหรับรถยนต์ทั่วไป และรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (CAV) แห่งแรกของประเทศ โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัท อัลฟาเบท (Alphabet) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เจ้าของ Google โดยตั้งเป้าเป็นทางหลวงอัจฉริยะที่ติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูง
โครงการทางหลวงอัจฉริยะสายนี้เริ่มต้นในปี 2020 เชื่อมต่อเมืองแอนอาร์เบอร์และเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน หากสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีความยาว 64 กิโลเมตร โครงการแบ่งออกเป็น 6 ระยะ โดยบริษัท คาฟนู (Cavnue) ทำงานร่วมกับกรมขนส่งของรัฐมิชิแกน (MDOT) ตลอดเส้นทางจะมีการติดตั้งเซนเซอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลในทุก ๆ 200 เมตร และกล้องวงจรปิดเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI พร้อมแจ้งเตือนอุบัติเหตุ หรือข้อมูลสัญต่าง ๆ ให้กับผู้ที่ขับขี่บนทางหลวงอัจฉริยะ รวมไปถึงส่งความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินหากเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงได้ทันท่วงที
สำหรับวัตถุประสงค์ของการสร้างทางหลวงอัจฉริยะสาย I-94 เพื่อปรับปรุงด้านความปลอดภัย ลดความแออัดของรถยนต์ และรองรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (CAV) ที่จะได้รับการพัฒนาโดยผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในอนาคต ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล ระบบขนส่งสาธารณะและสินค้า นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจการผลิตรถยนต์ที่แข็งแกร่งให้กับรัฐมิชิแกน การขนส่งเคลื่อนย้ายผู้คน และสินค้าไปยังภูมิภาคต่าง ๆ อย่างปลอดภัย
นอกจากทางหลวงอัจฉริยะ I-94 ที่เชื่อมต่อเมืองออสติน รัฐเท็กซัส บริษัท คาฟนู (Cavnue) ยังอยู่ในระหว่างการทำโครงการทางหลวงหมายเลข 130 ของรัฐออสตินเชื่อมต่อรัฐเท็กซัส หรือ "Smart Freight Corridor" ด้วยเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันหลายเมืองในโลกให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นถนนเพิ่มมากขึ้น แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกายังดำเนินการได้ล่าช้า โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน สหราชอาณาจักรได้เริ่มพัฒนาถนนอัจฉริยะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายได้ตลอดเส้นทาง รวมไปถึงถนนอัจฉริยะที่รองรับการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยแผงโซลาร์เซลล์ และชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับรถยนต์ในยุโรป
ที่มาของข้อมูล Engadget.com