สหรัฐฯ เลือกโดรน V-BAT ใช้ทดแทน RQ-7B Shadow ในกองทัพ
ปัจจุบันกองทัพสหรัฐอเมริกาได้มีการนำโดรนบินรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาใช้งานในภารกิจของกองทัพ โดยล่าสุดได้คัดเลือกโดรนบินรุ่นใหม่วีแบท (V-BAT) ที่สามารถบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งเข้าประจำการในกองทัพเพื่อทดแทนโดรนบินอาร์คิว-7บี ชาโดว์ (RQ-7B Shadow) ภายใต้โครงการระบบอากาศยานไร้คนขับทางยุทธวิธีแห่งอนาคต (FTUAS)
โดรนบินรุ่นใหม่วีแบท (V-BAT) ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท นอร์ทธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) และชีลด์ เอไอ (Shield AI) โดรนบินรุ่นนี้ใช้พลทหารควบคุม 2 นาย บินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งแตกต่างจากโดรนบินอาร์คิว-7บี ชาโดว์ (RQ-7B Shadow) รุ่นก่อนที่ใช้การบินขึ้นในแนวราบและการดีดตัวออกจากฐานปล่อยซึ่งใช้พื้นที่และวิธีการที่ล่าช้ามากกว่า
ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งของโดรนบินรุ่นใหม่วีแบทวีแบท คือ ความสามารถในการลอยตัวนิ่ง ๆ อยู่กลางอากาศได้นานกว่า 8 ชั่วโมง และระบบพลังงานสำรองอีก 1 ชั่วโมง ติดตั้งระบบออปติคัลและอินฟราเรด เรดาร์รูรับแสงสังเคราะห์ ด้วยความสามารถดังกล่าวมันจึงเป็นอุปกรณ์สำหรับการเก็บข่าวกรองหรือระบบป้องกันภัยสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงภารกิจสนับสนุนการสู้รบของกองพลน้อยของกองทัพสหรัฐฯ กองกำลังพิเศษ และกองพันทหารพราน
จุดเด่นของโดรนบินวีแบท (V-BAT) มีอัตราส่วนน้ำหนักการบินขึ้นสูงสุดต่อน้ำหนักบรรทุกวีแบทเอาชนะคู่แข่ง 13 ราย การออกแบบและการควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยให้สามารถบินขึ้นและลงจอดท่ามกลางกระแสลมแรง บนลานบินที่มีผู้คนพลุกพล่าน บนเรือที่กำลังเคลื่อนที่โดยใช้พื้นที่ลงจอดขนาดเล็กเพียง 12x12 นิ้ว แรงขับของขึ้น 80% ที่กำลังเครื่องยนต์เทียบเท่ากัน
โดรนบินวีแบทมีขนาดความยาว 9 ฟุต กว้าง 9.7 ฟุต น้ำหนักของโดรน 125 กิโลกรัม บรรทุกสิ่งของน้ำหนัก 25 ปอนด์ เพดานบินสูงสุด 20,000 ฟุต หรือประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้พื้นที่กว้างในการบินขึ้นและลงจอดเพียง 12x12 ฟุต เท่านั้น ตัวอย่างเซนเซอร์ที่ติดตั้งบนโดรนบินรุ่นใหม่ V-BAT เช่น กล้องถ่ายภาพ ระบบเรดาร์รูรับแสงสังเคราะห์แบบอิเล็กโทรออปติก/อินฟาเรด ติดตั้งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบการค้นหาในบริเวณกว้าง (Land/Maritime Wide Area Search (WAS))
กระบวนการทดสอบและประเมินประสิทธิภาพของกองทัพสหรัฐอเมริกามีความเข้มงวด ทีมงานพัฒนาโดรนบินรุ่นใหม่วีแบทในบริษัท นอร์ทธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) และชีลด์ เอไอ (Shield AI) ทำงานด้านอาวุธมายาวนานกว่า 30 ปี ก่อนหน้านี้มีการทดสอบใช้งานวีแบทในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และนาวิกโยธิน ตั้งแต่ปี 2016 ก่อนได้รับการปรับปรุงพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Newatlas
ที่มาของรูปภาพ Shield.ai/newsroom/