รีเซต

2 ส.ค. มติชนจัดสัมมนา‘ปลุกไทยเที่ยวไทย’ -‘พิพัฒน์’เปิด"ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ"

2 ส.ค. มติชนจัดสัมมนา‘ปลุกไทยเที่ยวไทย’ -‘พิพัฒน์’เปิด"ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ"
มติชน
31 กรกฎาคม 2563 ( 09:03 )
251

2ส.ค.มติชนจัดสัมมนา‘ปลุกไทยเที่ยวไทย’ ‘พิพัฒน์’เปิด”ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” นายกฯท่องเที่ยวขอปลดล็อกรับต่างชาติ ชง ศบค.ไฟเขียว‘ไพรเวตเจ็ต-เหมาลำ’บินเข้าเกาะ

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.30-12.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพฯ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเป็นประธานการสัมมนา “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” ซึ่งหนังสือพิมพ์มติชนจัดขึ้นเนื่องในโอกาสดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 43 โดยนายพิพัฒน์จะปาฐกถาพิเศษภายในงานด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานยังมีเวทีเสวนา โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสุรวัช อัครวรมาศ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และอุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ดำเนินรายการ โดย พิภู พุ่มแก้วกล้า พิธีกรรายการและผู้ประกาศข่าว

ขณะที่ นายพิพัฒน์  เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการท่องเที่ยว “ภูเก็ต…เด็ดทั้งเกาะ” เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

โดยนายพิพัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้เกิดการเดินทางภายในประเทศควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต้านมาตรฐานความปลอดภัย ด้านความสะอาดและสุขอนามัย ถือเป็นนโยบายสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ก้าวผ่านวิกฤตการณ์เศรษฐกิจที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้

นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับสมญานามว่า ไข่มุกอันดามัน นั้น ได้รับผลกระทบเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจที่รุนแรง การที่ภาครัฐและเอกชนได้รวมทีมกันจัดมหกรรมการท่องเที่ยว “ภูเก็ต..เด็ดทั้งเกาะ” ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีต่อนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่จะได้เปิดโอกาสสู่ประสบการณ์ใหม่ ผ่านกิจกรรมที่ถูกสร้างสรรค์มา พร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่ผู้ประกอบการร่วมใจกันสร้างและหวังว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีต่อแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ

นายพิพัฒน์กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิและสังคม แต่ที่สำคัญมาก คือ ภูเก็ตเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของภาคการท่องเที่ยว มีโรงแรมระดับนานาชาติและบูติกที่ได้มาตรฐานสากล มีร้านอาหารระดับมิชลินมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามระดับโลก มีมาตรฐานการบริการที่สูง รวมถึงเป็นจังหวัดที่มีสถานประกอบการ ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพฯ

นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า มาตรฐานดังกล่าว จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ให้เข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หวังว่าการจัดงานเปิดตัวมหกรรมท่องเที่ยว “ภูเก็ต.เด็ดทั้งเกาะ” ในครั้งนี้ จะประชาสัมพันธ์และดึงนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ไปเที่ยวภูเก็ต และได้รู้ว่าที่พักการเดินทางไม่ได้แพงเหมือนในอดีตแล้ว จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูเก็ตให้กลับมาเข้มแข็งต่อไป

ด้าน นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวในงานเดียวกัน ว่า อยากเสนอให้ภาครัฐปลดล็อกอนุญาตให้ภูเก็ต เปิดจังหวัดรับนักท่องเที่ยวหรือต่างชาติที่ต้องการเข้ามากักตัว 14 วัน ในโรงแรมของภูเก็ต เบื้องต้นมีชาวต่างชาติสนใจบินเข้ามากักตัวในจังหวัดภูเก็ต ด้วยเครื่องบิน
ส่วนบุคคล (ไพเวตเจ็ต) ประกอบด้วย ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนประเภทเครื่องบินเช่าเหมาลำมีหลายประเทศที่ติดต่อเข้ามา หากมีการเปิดน่านฟ้า พร้อมที่จะเดินทางมาที่ภูเก็ตทันที อาทิ จีน ไต้หวัน มาเลเซีย และฮ่องกง เป็นต้น โดยที่จังหวัดภูเก็ตมีโรงแรมกักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine หรือASQ) ที่ผ่านการตรวจสอบของสาธารณสุข และมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวแล้ว 3 แห่ง และอยู่ระหว่างตรวจสอบอีก 16 แห่ง

“แนวทางดังกล่าวอยู่ระหว่างเตรียมยื่นเสนอเรื่องไพเวตเจ็ตให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้นำเรื่องไปคุยกับสาธารณสุขจังหวัดก่อนนำไปคุยกับกระทรวงสาธารณสุข และเสนอเรื่องเข้าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ต่อไป ส่วนประเภทเครื่องบินเช่าเหมาลำได้มีการเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และจะทำตามขั้นตอนเดียวกันกับที่เสนอเรื่องไพเวตเจ็ต” นายภูมิกิตติ์กล่าว

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า มหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ เป็นหนึ่งในหลายกลยุทธ์ที่สมาคมร่วมกับทุกภาคส่วน ในการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวตรงสู่กลุ่มลูกค้า ในส่วนของโรงแรมที่พักและกิจกรรมต่างๆลดราคาสูงสุด 70% รวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เจ็ดทีเด็ด…Phuket Only’ โดยแต่ละทีเด็ดจะมีกิจกรรมปลีกย่อย เพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตามตารางกิจกรรมจากเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2563 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญกับมาตรฐานการให้บริการตามมาตรฐานใหม่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ปรับกระบวนการให้บริการตามมาตรฐานภาคสมัครใจสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อป้องกันโควิด-19 (เอสเอชเอ) ปัจจุบันมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตรับตราสัญลักษณ์แล้ว 350 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง