‘พิพัฒน์’นำทีมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนฟาดแข้ง มั่นใจเป็นต้นแบบปลดล็อคเฟสหน้า
‘พิพัฒน์’นำทีมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนฟาดแข้ง มั่นใจเป็นต้นแบบปลดล็อคเฟสหน้า
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่กระทรวงการท่่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมวีวีไอพีรัฐบาล พร้อมด้วยทีมรวมดารา นำโดย “กิก” ดนัย จารุจินดา, “จอห์น บราโว่” ธนเชษฐ์ มีสม เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการการจัดการแข่งขันของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อเตรียมลงแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ในวันที่ 1 สิงหาคม โดยมีรถตรวจเคลื่อนที่ของ วีไอพี เมดิซ เข้ามาให้บริการในครั้งนี้
กิจกรรมฟุตบอลนัดพิเศษ “NEW NORMAL” DEMONSTRATION MATCH : RAYONG KICK OFF! ระเบิดความมันกับฟุตบอลวิถีใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม จะเป็นการแข่งขัน 2 นัด ระหว่าง ทีมวีวีไอพีรัฐบาล พบกับ ทีมรวมดารา สตาร์ไรเดอร์ และเกมสาธิตฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ระหว่าง “ม้านิลมังกร” ระยอง เอฟซี กับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ทหารชาวอียิปต์เดินทางมาในจังหวัดระยองและพบเชื้อโควิด-19 ทำให้ทางกระทรวงได้จัดกิจกรรมขึ้นมา ในวันที่ 1 สิงหาคมก็จะมีทั้งกิจกรรมการปั่นจักรยาน และฟุตบอล ซึ่งจะเป็นการจัดในรูปแบบที่มีแฟนบอลเข้าชม นอกจากนี้เว้นไปอีก 1 สัปดาห์ ในวันที่ 8 สิงหาคม ก็จะมีคอนเสิร์ต ที่จะจัดในรูปแบบนิวนอร์มัลเช่นกัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้เป็นไปตามมาตรการของศบค. จึงต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนลงแข่งขันอย่างน้อย 72 ชั่วโมง รวมถึงจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมด้วย
“ทางกระทรวงนั้นตั้งใจจะไปสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ว่าสามารถเดินทางมาเที่ยวในจังหวัดระยองได้แบบไม่ต้องกังวลอีก และตอนนี้เองก็ผ่าน 2 สัปดาห์ไปแล้ว ไม่มีการติดเชื้อเพิ่มเติม เป็นการตอกย้ำการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ดำเนินการป้องกัน ตรวจสอบ อย่างรวดเร็วและทันใจ แต่ที่สำคัญก็ย้ำเตือนคนไทยว่าอย่าการ์ดตก และพยายามย้ำเสมอว่าเวลาไปไหนควรจะสวมหน้ากากเสมอ”
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เป็นเหมือนการทดสอบอย่างหนึ่ง ก่อนที่การแข่งขันไทยลีกจะกลับมาแข่งขันกันในเดือนกันายายนนี้ เราจะเปิดให้มีแฟนบอลเข้าชม 1 ใน 4 ของสนาม อย่างเช่นสนามกีฬากลางจังหวัดระยองนั้น สามารถจุดได้ 10,000 คน ก็จะปล่อยให้มีคนเข้าสนามได้ 2,500 คน แบ่งเป็นแฟนบอลทีมเหย้า 1,650 คน และทีมเยือน 350 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นส่วนของวีไอพีรวมถึงนักข่าว นอกจากนี้ยังเป็นการจัดการแข่งขันตามมาตรการที่ศบค.กำหนด แฟนบอลที่จะเข้าสนามจะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิ, ลงทะเบียผ่านแอพลิเคชั่นไทยชนะ รวมถึงการเว้นระยะห่างของผู้ชม ซึ่งการแข่งขันในวันที่ 1 สิงหาคมจะเป็นการพิสูจน์และตอบโจทย์เป็นอย่างดี อยากให้ลองชมกันว่าการจัดการจะเป็นอย่างไร
“หลังจากการทดสอบครั้งนี้ ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็จะสามารถเป็นต้นแบบให้กีฬาชนิดอื่นๆ สามารถจัดการแข่งขันในแบบมีผู้ชมเข้าสนามได้ ตามระเบียบที่ศบค.จะเป็นผู้กำหนด อย่างเช่นมีการจำกัดจำนวนผู้ชม ซึ่งจะต้องทำระเบียบคู่มืออกมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากกรณีที่ นายอดุลย์ นิยมสมาน รองประธานสโมสรระยอง เอฟซี ถามถึงงบประมาณในการจัดการแข่งขันนั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องงบประมาณนั้นทางกระทรวงจะเป็นผู้ดูแลและสนับสนุน ผ่านทางการกีฬาแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักปลัดกระทรวง จะมาดูกันว่าจะสนับสนุดอย่างไรได้บ้าง