รีเซต

ทำไมสถาบันถึงหันมาสนใจคริปโตเคอเรนซี โดย Zipmex

ทำไมสถาบันถึงหันมาสนใจคริปโตเคอเรนซี โดย  Zipmex
TNN ช่อง16
12 มีนาคม 2564 ( 11:32 )
471
ทำไมสถาบันถึงหันมาสนใจคริปโตเคอเรนซี โดย  Zipmex

กระแสของ Cryptocurrency นั้นแรงไม่หยุดจริง ๆ นอกจากในแง่ของราคาแล้ว เรายังเริ่มเห็นการเข้ามามีส่วนร่วมของสถาบันชั้นนำระดับโลกในด้านต่าง ๆอย่างเช่น

  •  PayPalเตรียมเปิดบริการรับชำระเงินด้วย Cryptocurrency ในปี 64 โดยรองรับสกุลเงิน 4 สกุล ได้แก่ BTC, ETH, BCH, LTC
  •  VISAร่วมกับ Partner เตรียมแผนทำกระเป๋าเงินดิจิทัลและเว็บเทรด เพื่อให้ผู้ใช้ของ VISA สามารถซื้อ ถอน และแปลงเงินจากCryptocurrency เป็น Fiat currency สำหรับการชำระเงิน
  •  Mastercard มีแผนที่จะนำเสนอการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัลให้กับลูกค้าบนแพลตฟอร์มและยังเปิดเผยอีกว่า ได้มีการจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลอีกหลายรายการ

สิ่งที่อยากชวนคิดต่อคือ ทำไมสถาบันต่างๆ เหล่านี้ ถึงเข้ามาสนใจคริปโตฯ พวกเขามองเห็นอะไรจึงออกแผนงานมาในลักษณะนี้ซึ่งสวนทางกับกระแสที่มักมีคนออกมาพูดถึงความผันผวนของราคาคริปโตหรือสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น

จริงๆ แล้ว คริปโตฯ มีเบื้องหลังอยู่ นั่นคือ เทคโนโลยี Blockchain นั่นเอง ประเด็นสำคัญเลย อยู่ที่ประโยชน์ของเทคโนโลยี Blockchain เพราะเทคโนโลยี Blockchain นั้น มีความปลอดภัยและโปร่งใสในเรื่องการเก็บข้อมูล ไม่สามารถปลอมแปลงข้อมูลได้ และด้วยความที่เป็นระบบที่ไม่มีตัวกลาง ทำให้สามารถลดต้นทุนในการทำธุรกรรมบางอย่างได้อีกด้วย 

ภาพด้านบนนี้เป็น ตัวอย่างของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ได้ทำเทคโนโลยี Blockchain ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างเช่น Apple, Facebook, Google, Alibaba, Samsungเป็นต้น

3 เหตุผลที่ทำให้สถาบันหันมาสนใจคริปโตฯ มากยิ่งขึ้น

1.นักลงทุนเริ่มเปิดใจยอมรับคริปโตฯ มากขึ้น ทำให้สถาบันต่างๆ ต้องปรับตัวตามไปด้วยอย่างบริษัทที่เป็นสถาบันการเงินอย่างก็หันมาทำโครงการเกี่ยวกับการรับชำระเงินด้วยคริปโตฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

2.สถาบันมองเห็นโอกาสในการรับชำระเงินด้วยคริปโตฯ เนื่องจากมูลค่าคริปโตฯ สามารถเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตด้วยตัวของมันเอง ประกอบกับในหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความเสี่ยงของการด้อยค่าของสกุลเงินทั่วไปแล้ว ตัวอย่างเช่น ประเทศเวนาซุเอลาที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล และรายได้ของประเทศพึ่งพิงกับราคาน้ำมันมากเกินไป ทำให้เราจึงได้เห็นภาพของเงินที่กระจัดกระจายตามท้องถนนในประเทศเวเนซุเอลาอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากการด้อยค่าของค่าเงินดังกล่าวนั่นเอง 

3.สถาบันเริ่มเล็งเห็นประโยชน์ของคริปโตฯ ซึ่งสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้ ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม โดยมองข้ามเรื่องความผันผวนไปได้

ในประเทศไทยเองเราก็ได้เห็นพัฒนาการในลักษณะแบบนี้อยู่เหมือนกัน อย่างล่าสุดบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จับมือกับ ซิปเม็กซ์ (ZIPMEX) แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจในไทย และแรพิดซ์ (RAPIDZ) ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เริ่มโครงการ “ทดลองรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล”ซึ่งเริ่มจากสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมที่สุดก่อนอย่าง Bitcoin โดยทางเมเจอร์มองเรื่องการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มคนรุ่นใหม่และนักลงทุนซึ่งคาดว่าน่าจะมีผู้สนใจมาลองใช้บริการมากขึ้นเป็นลำดับสำหรับผู้สนใจอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่สามารถใช้บริการได้ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์รัชโยธินเป็นสาขาแรก ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป 

(ภาพบรรยากาศการเปิดตัวในงาน 4 มีนาคม 2564)

วิธีการใช้งานนั้นง่ายมาก ลูกค้าสามารถกดซื้อตั๋วหนังได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามปกติได้เลยเพียงแต่ตอนชำระเงินวิธีการชำระเป็น E-walletเลือก Rapidzหลังจากนั้นเข้าแอปฯ RapidzPayซึ่งจะทำหน้าที่เหมือน E-Wallet ในการรับฝากสกุลเงินดิจิทัลและชำระค่าซื้อสินค้าและบริการ แล้วสแกนจ่ายด้วย QR Code  ระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในขณะนั้นกับราคาตั๋วหนังที่ต้องจ่ายให้ ว่าต้องชำระเป็นหน่วยสกุลเงินดิจิทัลเท่าไร ซึ่งในส่วนของความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัลนั้น จะตกอยู่กับทาง Rapidzโดยทาง Zipmexของเราทำหน้าที่ในการเป็นผู้เปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินบาทเพื่อส่งมอบสกุลเงินบาทนั้นให้กับทางเมเจอร์นับเป็นเหตุการณ์นี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

สรุปแล้ว เหตุผลที่สถาบันหันมาสนใจคริปโตฯ มากขึ้น อาจเพราะมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจในอนาคตกับวงการคริปโตฯ ก็เป็นได้


อ้างอิง

-    https://positioningmag.com/1322010


ข่าวที่เกี่ยวข้อง