รีเซต

FBI ใช้ Bitcoin แค่ 250 ดอลลาร์ ล่อแฮ็กเกอร์ระดับโลก หาตัวเจอจากธุรกรรมบนบล็อกเชน

FBI ใช้ Bitcoin แค่ 250 ดอลลาร์ ล่อแฮ็กเกอร์ระดับโลก หาตัวเจอจากธุรกรรมบนบล็อกเชน
ทันหุ้น
27 มิถุนายน 2568 ( 10:52 )
15

FBI ใช้ Bitcoin แค่ 250 ดอลลาร์ ล่อแฮ็กเกอร์ระดับโลก หาตัวเจอจากธุรกรรมบนบล็อกเชน

 

สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) สามารถจับกุม Kai West แฮ็กเกอร์ชาวอังกฤษวัย 25 ปี ที่รู้จักในโลกออนไลน์ในชื่อ “IntelBroker” หรือ “Kyle Northern” หลังจากเจ้าหน้าที่สายลับส่ง Bitcoin มูลค่าเพียง 250 ดอลลาร์ให้เขาเพื่อซื้อข้อมูลเหยื่อ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การตามจับตัวได้สำเร็จ ถูกล่อซื้อผ่านธุรกรรม BTC

 

จากแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ระบุว่า West และพวก ร่วมกันจำหน่ายข้อมูลที่แฮ็กมาจากเหยื่อมากกว่า 40 ราย เช่น

 

  • บริษัทโทรคมนาคม
  • หน่วยงานสุขภาพเทศบาล
  • บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

โดยปกติ West จะรับชำระเงินด้วย Monero (XMR) ซึ่งเป็นเหรียญที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อปกปิดร่องรอยการทำธุรกรรม แต่ในวันที่ 26 มกราคม 2023 เจ้าหน้าที่สายลับเสนอซื้อข้อมูลด้วย Bitcoin และ West ตกลงรับเงิน BTC มูลค่า $250 — ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวเขาผ่านบล็อกเชนได้สำเร็จ

 

ตามรอยจากบล็อกเชนจนถึงตัวจริง

Ari Redbord หัวหน้าฝ่ายนโยบายของ TRM Labs บริษัทด้านนิติวิทยาศาสตร์บล็อกเชนกล่าวว่า

 

“การจับกุม IntelBroker แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายพัฒนาไปไกลแค่ไหนในโลกคริปโต การใช้ธุรกรรมเพียง $250 เพื่อระบุตัวผู้ต้องสงสัยถือเป็นความก้าวหน้า”

 

เขาเสริมว่า ความสามารถในการติดตามธุรกรรมเล็กๆ ผ่านบัญชีบล็อกเชนเปิดเผยที่อยู่กระเป๋า อีเมล และตัวตนผู้ใช้งาน เป็นสิ่งที่ธนาคารทั่วไปทำไม่ได้ง่ายๆ

แฮ็กข้อมูลกว่า 117 ครั้ง สร้างความเสียหาย $25 ล้าน

 

จากการสอบสวนพบว่า West และพวกพยายามจำหน่ายข้อมูลเหยื่ออย่างน้อย 41 ครั้ง คิดมูลค่ารวมประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ และมีการเผยแพร่ข้อมูลฟรีอีกกว่า 117 ครั้งระหว่างปี 2023 ถึง 2025

 

FBI ประเมินว่าความเสียหายรวมจากการแฮ็กเหล่านี้สูงถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Kai West ถูกจับในฝรั่งเศสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และกำลังรอการส่งตัวข้ามแดนมายังสหรัฐฯ โดยเขาถูกตั้งข้อหา:

 

  • สมคบคิดเพื่อบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์
  • ฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ (wire fraud)
  • เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

Monero ถูกจับตา

ในปัจจุบัน Monero (XMR) เป็นเหรียญอันดับ 30 ของโลก มีมูลค่าตลาดรวมราว 5.8 พันล้านดอลลาร์ และมีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ประมาณ $312 ต่อเหรียญ

อ้างอิง : theblock.co

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/fbis-undercover-bitcoin-payment-hacker

 

กฎหมายคริปโตมาแน่! วุฒิสภาสหรัฐตั้งเป้าผ่านร่างโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลภายใน ก.ย. นี้

 

วุฒิสมาชิก Tim Scott ประธานคณะกรรมาธิการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐฯ ประกาศเป้าหมายชัดว่า ต้องการให้สภาผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึง Stablecoin ให้เสร็จภายในเดือนกันยายน 2025 เพื่อวางรากฐานให้ตลาดคริปโตสหรัฐฯ มีความชัดเจนและปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

ในงานพูดคุยพิเศษเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา โดยมีวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis และที่ปรึกษาด้านคริปโตของทำเนียบขาว Bo Hines เข้าร่วม วุฒิสมาชิก Scott กล่าวอย่างชัดเจนว่า “เพื่อให้ตลาดทำงานได้อย่างเต็มที่ รัฐสภาจำเป็นต้องเดินหน้าผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างตลาดและ Stablecoin”

 

เป้าหมายที่ชัดเจน: ผ่านร่างภายใน 30 ก.ย.

 

  • วุฒิสมาชิก Lummis ตอบรับเป้าหมายของ Scott พร้อมกล่าวว่า “ท่านเป็นประธาน เราจะทำตาม”
  • Lummis ยังเผยในงาน Bitcoin Policy Summit ว่าเธอจะ “ผิดหวังอย่างมาก” หากกฎหมายอย่าง GENIUS Act และกฎหมายโครงสร้างตลาดยังไม่ผ่านภายในปี      2026

GENIUS Act และ CLARITY Act บทบาทสำคัญในกฎหมายคริปโตสหรัฐฯ

  • GENIUS Act ซึ่งผ่านวุฒิสภาแล้วกำลังรอพิจารณาในสภาผู้แทนฯ แต่ยังไม่มีการลงมติ
  • ส่วน CLARITY Act ซึ่งเสนอโดยสภาผู้แทนฯ ก็เพิ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและอาจถูกใช้เป็นร่างต้นแบบของวุฒิสภาด้วย

ทั้งสองฉบับนี้มุ่งสร้างแนวทางที่ชัดเจนสำหรับบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การกำหนดว่าสินทรัพย์ใดเข้าข่ายหลักทรัพย์ (ดูแลโดย SEC) หรือสินค้าโภคภัณฑ์ (ดูแลโดย CFTC)

 

ด้านทรัมป์กดดันให้รีบผ่านกฎหมาย

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้โพสต์ในโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เรียกร้องให้สภาผู้แทนฯ ผ่าน GENIUS Act และ “รีบนำขึ้นโต๊ะเขาให้เร็วที่สุด”

อ้างอิง : cointelegraph.com
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/senate-banking-committee-tim-scott-market-structure

 

จาก Bitcoin สู่บ้านในฝัน! จับตาคำสั่งใหญ่ หนุนคริปโตค้ำประกันสินเชื่อบ้าน

 

ทิศทางใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อกำลังจะมาถึง เมื่อสำนักงานการเคหะและการเงินแห่งชาติ (FHFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแล Fannie Mae และ Freddie Mac สั่งการให้สองยักษ์ใหญ่ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยนี้ พิจารณาสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล ของผู้กู้ในการประเมินความเสี่ยงสินเชื่อที่อยู่อาศัย การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้จะรวมถึง Bitcoin (BTC) และสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอื่น ๆ เช่น Ethereum (ETH)

 

คำสั่งดังกล่าวซึ่งออกโดย นาย William Pulte ผู้อำนวยการ FHFA เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขยายขอบเขตการพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้ โดยเฉพาะผู้ที่มีสินทรัพย์ดิจิทัล การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตและบทบาทของคริปโตเคอร์เรนซีในฐานะทางเลือกนอกเหนือจากการลงทุนแบบดั้งเดิม

รายละเอียดและเงื่อนไขสำคัญ

 

ภายใต้คำสั่งใหม่นี้ สินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลที่จะนำมาพิจารณาได้จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสำคัญ นั่นคือ ต้องจัดเก็บอยู่ในแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (centralized exchanges) ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหรัฐฯ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเคร่งครัด ซึ่งหมายความว่าผู้กู้จะไม่จำเป็นต้องแปลง Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ให้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ในการขอสินเชื่อ

 

ปัจจุบัน นโยบายการพิจารณาสินทรัพย์ของผู้กู้จะรวมถึงสกุลเงินเสมือนก็ต่อเมื่อมีการแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ และฝากไว้ในสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเท่านั้น แต่คำสั่งใหม่นี้จะเปิดทางให้ Fannie Mae และ Freddie Mac พิจารณาสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีได้โดยตรง โดยไม่ต้องบังคับให้ผู้กู้ต้องแปลงเป็นเงินสดก่อน

 

บทบาทของ Bitcoin และผลกระทบต่อตลาดสินเชื่อ

การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น "ช่วงเวลาแห่งการกำหนด" (Defining Moment) สำหรับการยอมรับสถาบันของ Bitcoin โดย นาย Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้ง MicroStrategy กล่าวว่า "คนรุ่นอนาคตจะจดจำสิ่งนี้ในฐานะช่วงเวลาที่ Bitcoin ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ American dream"

 

นักวิเคราะห์หลายคนชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ชาวอเมริกันรุ่นใหม่ ซึ่งมักจะถูกกีดกันออกจากตลาดที่อยู่อาศัย เนื่องจากขาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิม สามารถใช้สินทรัพย์คริปโตฯ ที่ถือครองอยู่เพื่อมีคุณสมบัติในการขอสินเชื่อบ้านหลังแรกได้ง่ายขึ้น

 

  • Bitcoin ในฐานะหลักทรัพย์ค้ำประกัน: คำสั่งนี้วางตำแหน่งให้ Bitcoin เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันที่น่าเชื่อถือในระบบการเงินกระแสหลัก
  • ครอบคลุมผู้กู้มากขึ้น: ผู้ซื้อบ้านที่มีการถือครอง Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้อาจติดขัดในการขอสินเชื่อจะมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • แรงจูงใจทางการเมือง: มีการกล่าวถึงว่าการเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ต้องการทำให้สหรัฐฯ เป็น "เมืองหลวงของคริปโตฯ ของโลก" นอกจากนี้ ข้อมูลยังระบุว่าคู่สมรสของ William Pulte ผู้อำนวยการ FHFA เองก็ถือครอง Bitcoin ในมูลค่าที่สูงพอสมควร

Fannie Mae และ Freddie Mac ได้รับคำสั่งให้จัดเตรียมข้อเสนอแนะและแนวทางการนำร่อง "โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" ซึ่งหมายความว่าเราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายในไม่นานนี้

 

Fannie Mae และ Freddie Mac คืออะไร?

Fannie Mae และ Freddie Mac เป็นสองบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ (Government-Sponsored Enterprises - GSEs) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มสภาพคล่องและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ โดยการซื้อสินเชื่อบ้านจากธนาคารและสถาบันการเงิน แล้วนำมารวมกันเป็นหลักทรัพย์เพื่อขายให้กับนักลงทุน ทำให้ธนาคารมีเงินทุนในการปล่อยสินเชื่อใหม่ต่อไปได้

 

‍ข่าวจาก Reuters

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/boards-policy-regulation-regulator-orders-fannie-freddie-consider-crypto-holdings-loan

 

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง