รักษาการเจ้าอาวาส สึกเงียบ หลังตั้งวงกินเหล้าอ้างฆ่าเชื้อ ลิ้นพันบอกไม่ได้กิน

จากกรณีเพจเฟซบุ๊คชื่อ “ชุมชนข่าวขอนแก่น” ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่บนแคร่ไม้ลักษณะเป็นศาลาพักร้อน พูดลิ้นพันกันบอกกับเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบในคลิปว่าไม่ได้ดื่มแค่นั่งเฝ้าโยม

โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “วงการพระสงฆ์ไม่แผ่วเลย ล่าสุดตั้งวงร้องเกะ ปฏิเสธไม่ได้ดื่มแค่นั่งเฝ้าโยม แถมเอ่ยถึงนักการเมืองนายอำเภอไม่มีใครกล้ายุ่งกับอาตมานะ #ขอนแก่น” ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของผู้สื่อข่าวเบื้องต้นทราบว่าพระสงฆ์ที่ปรากฎในคลิปคือรักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีพนาวาส และบอกกับชาวบ้านว่าที่ดื่มนั้นเพื่อฆ่าเชื้อไวรัส โควิดโดยนำมะนาวผสมกับเหล้าขาวแล้วดื่ม ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พ.ค.2565 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีคลิปดังกล่าวเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจ.ขอนแก่นได้ตรวจสอบทราบว่าเหตุเกิดที่วัดศรีพนาวาส ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น และพระที่เป็นข่าว ชื่อพระพิทักษ์ สุภกิจฺโจ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสฯ

ในกรณีดังกล่าวคณะสงฆ์อำเภอชนบท ได้มีมติว่าเมื่อให้โอกาสพระพิทักษ์ มาชี้แจงแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และได้หนีไปโดยไม่แจ้ง จึงมีมติให้พระพิทักษ์ ออกจากพื้นและไม่ให้กลับเข้ามาอยู่ภายในวัดและอำเภอชนบทอีกต่อไป กระทั่งล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนที่ผ่านมาทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ได้รับแจ้งจากทางเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นว่า พระพิทักษ์ฯ ตามที่เป็นข่าวดื่มเหล้าในวัด อ.ชนบท ได้ลาสิกขาแล้ว

"สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ได้ประสานคณะสงฆ์อำเภอชนบท พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอชนบท โดยนางนิชากร กมลคร ปลัดอำเภอชนบท และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพระครูปริยัติธรรมมงคล เจ้าคณะอำเภอชนบทได้สั่งการให้พระครูรัตนสรานุกิ เจ้าคณะตำบลบ้านแท่น เรียกพระพิทักษ์ ผู้ที่ตกเป็นข่าวมาพบที่วัดบึงแก้ว

ปรากฎว่าพระพิทักษ์ ไม่ได้มาพบและติดต่อไม่ได้ จากการสอบถามข้อเท็จจริงกับผู้ใหญ่บ้านทราบว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. มีชาวบ้านมาแจ้งว่าภายในวัดมีการตั้งวงกินเหล้าและร้องเพลงเสียงดัง ขอให้ไปตรวจสอบด้วย เมื่อไปที่วัดตรวจสอบพบวัยรุ่นตั้งวงกินเหล้าร้องเพลงจริง

โดยมีพระพิทักษ์ อยู่ในวงด้วยจึงได้สอบถามโดยพระพิทักษ์ แจ้งว่าวัยรุ่นได้มาช่วยงานก่อสร้างที่วัดหลังเสร็จงานจึงได้เลี้ยงอาหารตามสมควรและมีการดื่มด้วย ส่วนพระพิทักษ์ดูอาการน่าจะมีการดื่ม และได้มีการโต้เถียงกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเช้าวันที่ 6 พ.ค.จนถึงบัดนี้ ก็ไม่เห็นพระพิทักษ์ ที่วัดและไม่สามารถติดต่อได้กระทั่งทางพระพิทักษ์ได้มีการลาสิกขาไปเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา"