วงจรปิดเผยวินาทีรถบรรทุกหลบ รถจยย.ย้อนศร จนเบียดทับ 2 ศพดับคาที่
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 18 สิงหาคม ร.ต.ท (หญิง) นิลาวัณย์ สนแก้ว รอง สว.( สอบสวน) สภพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธศวรรย์ ตรวจสอบ อุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อเฉี่ยวชน กับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 รายบนถนนพหลโยธิน ขาออก ในช่องทางคู่ขนานหลักกมที่ 48 บริเวณปากทางเข้า ชุมชนอโยธยาพัฒนา หมู่ 6 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพนายปัญญา เสือเจริญ อายุ 62 ปี และ 1 นางสาวสิตานัน เสือเจริญ อายุ 30 ปี ยังสวมหมวกกันน็อคอยู่ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ยังคร่อมอยู่กับรถจักรายานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 สีดำแดง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 4- 2347 พระนครศรีอยุธยา ใกล้กันพบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ สีขาวหมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-8194 นครสวรรค์ หมายเลขทะเบียนตัวลูก70-8195 นครสวรรค์ จอดอยู่
สอบถามนายไกรสร อ่ำสงวน อายุ 39 ปี คนขับรถพ่วง ที่รอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ขับรถบรรทุกมาส่งสินค้าให้กับลูกค้าอยู่ระหว่างเดินทางกลับ ไปจังหวัดนครสรรค์ โดยใช้สะพานกลับรถ พอขับรถลงมาจากสะพาน ได้เบี่ยงเข้าช่องทางคู่ขนาน เห็นรถจักรยานยนต์รับจ้างวิ่งย้อนศรมา และบริเวณที่เกิดเหตุมีการขุดวางท่อประปาอยู่ จึงเบี่ยงขวาเล็กน้อยเพื่อหลบทั้งรถจักรยานยนต์และหลุมที่ขุดวางท่อประปา จากนั้นก็เบี่ยงซ้ายและได้ยินเสียงเหมือนรถทับอะไร จึงมองกระจกข้าง พบว่าได้เฉี่ยวกับรถจักรยานยนต์ ที่วิ่งตามหลังตนมา จึงจอดรถมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านนางสาวยอดตอง คงฮวด อายุ 40 ปี คนขับจักรยานยนต์ ที่ปรากฎอยู่ในกล้องวงจรปิด อ้างว่า ตนเองได้ขี่รถจักรยานรับจ้างย้อนศรมาพอถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นรถจักรยานยนต์กับรถพ่วงขับตีคู่กันมาแล้วตนก็ขับรถผ่านไป จนสุดหลุมวางแนวท่อประปาแล้ว ได้ยินเสียงรถพ่วงเบรกจากนั้นจึงหันไปดูพบว่ารถพ่วงทับผู้เสียชีวิตแล้ว
ทางด้านพนักงานสอบสวนจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุกำลังมีการขุดหลุมวางแนวท่อประปา ทำให้เสียชีองการจราจรไป 1 ช่องทาง ภาพจากกล้องวงจีปิดเห็นว่า มีรถจักรยานยนต์รับจ้าง วิ่งย้อนศรมาเป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์บรรทุกวิ่งมาพร้อมกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจึงเกิดการเฉี่ยวกันแล้วรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตก็ล้มลงจนถูกรถพ่วง 18 ล้อทับเสียชีวิต จึงได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุก คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง มาทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย