ส่งออก ต.ค.ลบ 6.71% พณ.หวังทั้งปี 63 ไม่หลุดเป้าลบ 7% ชี้อนาคตฝากไว้ที่อาร์เซ็ปฟื้นค้าเอเชีย
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกไทยเดือนตุลาคม 2563 มีมูลค่า 19,376.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 6.71% เมื่อหักสินค้าเกี่ยวกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธยุทธปัจจัย ลบ 4.89% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 17,330.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 14.32% ทำให้การค้าเกินดุล 2,046.53 ล้านเหรียญสหรัฐ
นางสาวพิมพ์ชนกกล่าวว่า สำหรับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 การส่งออก มีมูลค่า 192,372.77 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 7.26% การนำเข้า มีมูลค่า 169,702.56 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 14.61% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกไทยเกินดุล 22,670.21 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ การส่งออกไทยแม้ยังติดลบแต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี จากหลายสินค้าที่มีศักยภาพแม้เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และนายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งและเป็นว่าประธานาธิบดีสหรัฐ คาดว่าจะช่วยให้สถานการณ์การค้าโลกผันผวนน้อยลง และใกล้เทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ การสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าจะดีขึ้น
“กระทรวงพาณิชย์จึงคงคาดการณ์ตัวเลขส่งออกทั้งปี 2563 ลบ 7% หาก 2 เดือนที่เหลือปีนี้ มูลค่าส่งออกเฉลี่ย 18,329 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน และหากมูลค่าถึง 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนติดลบจะต่ำกว่า 7%” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว
นางสาวพิมพ์ชนกกล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนการส่งออกปลายปีถึงต้นปีหน้า คือ สินค้าไทยที่สหรัฐตัดจีเอสพีจะเร่งส่งออกก่อนถูกตัดสิทธิ ปัญหาการค้าชายแดนที่ประเทศเพื่อนบ้านยังติดเรื่องการแพร่ระบาดโควิด ค่าเงินบาทแข็งค่าและผันผวนสูง รวมถึงเรือขนส่งขาดแคลน ซึ่งตอนนี้เรือขนสินค้าส่วนใหญ่ติดค้างที่จีน จึงกระทบต่อการขนส่งไปทั่วโลก ส่วนปี 2564 ยังเชื่อว่าการส่งออกไทยจะฟื้นตัว จากหลายประเทศอัดมาตรการกระตุ้นการค้า การขยายตัวในเอเชียหลังลงนามเปิดเสรีอาร์เซ็ป และวัคซีนต้านไวรัสน่าจะยังใช้เวลาก็ทำให้ความต้องการเวชภัณฑ์ เช่น ถุงมือยาง อาหารแปรรูป เครื่องใช้ทั่วไป เป็นต้น โดยมีโอกาสที่ส่งออกไทยจะกลับมาเป็นบวก และเฉลี่ยส่งออกได้เดือนละ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคธุรกิจยังเป็นห่วงการส่งออกไทย โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้าย ดูจากตัวเลขส่งออกเดือนตุลาคมแม้เกิน 1.9 หมื่นล้านเหรียญ ใกล้เคียงเดือนกันยายนปีนี้ แต่ติดลบเพียง 3.86% ขณะที่ตุลาคมกลับมาติดลบ 6.71% ซึ่งปกติเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนจะเป็นเดือนที่ส่งออกได้สูงในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะได้คำสั่งซื้อจากช่วงหยุดยาวเดือนธันวาคม ขณะที่การนำเข้าก็ยังติดลบถึง 14% และสินค้านำเข้าขยายตัวดีคือกลุ่มสินค้าสำเร็จรูป อาจสะท้อนได้ว่าการฉลองปีใหม่ 2564 คาดไม่คึกคักเท่าปีก่อน