ชาวอเมริกันมีภูมิคุ้มกันหมู่ 90% หลังเผชิญโควิดเดลตา
วันนี้(28 ก.ย. 64) นายแพทย์สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ชาวสหรัฐจำนวนมากถึง 90% จะมีภูมิคุ้มกันหมู่ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาผ่านพ้นไป
นายแพทย์ก็อตต์ลีบกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "Mad Money" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า การมีภูมิคุ้มกันหมู่สูงถึง 90% ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แม้ว่าสหรัฐไม่สามารถกำจัดไวรัสโควิด-19 ให้หมดไปอย่างสิ้นเชิงได้ก็ตาม
"ผมมองในด้านบวกว่า แม้ในความจริงแล้วไวรัสสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและทำให้ประชาชนจำนวนมากติดเชื้อ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าเราจะมีภูมิคุ้มกันหมู่อย่างน้อย 85% หรืออาจจะถึง 90% ของจำนวนประชาชนในประเทศ"
"ประชาชนบางกลุ่มจะได้รับภูมิคุ้มกันผ่านทางการฉีดวัคซีน ขณะที่บางกลุ่มจะได้รับภูมิคุ้มกันผ่านทางการติดเชื้อ และบางกลุ่มจะได้รับผ่านทั้งทางการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวก็คือ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลาตาจะไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้มากนัก" นายแพทย์ก็อตต์ลีบกล่าว โดยปัจจุบันนายแพทย์ก๊อตต์ลีบดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของบริษัทไฟเซอร์
ทางด้านนายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ ได้แสดงความเห็นว่า โลกจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้งภายใน 1 ปี และมีแนวโน้มว่าในอนาคตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะกลายเป็นวัคซีนประจำปีที่ทุกคนต้องฉีดซ้ำเพื่อป้องกันโรค
"ภายใน 1 ปี ผมคิดว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเชื้อไวรัสจะไม่กลับมาอีก ฉะนั้น ผมจึงไม่คิดว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตได้โดยปราศจากวัคซีน การฉีดวัคซีนประจำทุกปีเป็นสถานการณ์ที่ผมคาดว่ามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเชื้อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก และเรายังคงเห็นสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นมาอีก" นายเบอร์ลากล่าวกับสำนักข่าว ABC เมื่อวานนี้
ข้อมูลจาก : IQ
ภาพจาก : AFP